เที่ยวญี่ปุ่น เทศกาลโยโคเตะคามาคูระ (Yokote Kamakura Festival) มีประวัติความเป็นมายาวนานประมาณ 400 ปี จัดขึ้นในวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์เป็นประจำทุกปีในเมืองโยโคเตะที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของจังหวัดอากิตะ (Akita) ซึ่งกิจกรรมที่สำคัญของเทศกาลคือการสร้างกระท่อมน้ำแข็งที่เรียกว่า คามาคูระ (Kamakura) ในสถานที่ต่างๆทั่วเมือง ภายในกระท่อมน้ำแข็งจะมีแท่นบูชาสำหรับบูชาเทพแห่งน้ำเพื่อขอพรให้น้ำท่าอุดมสมบูรณ์พอกินพอใช้ และเตาถ่านไว้สำหรับให้ความอบอุ่นและย่างเค้กข้าว ในช่วงเย็นประมาณ 18:00-21:00 เด็กๆจะเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้เข้าร่วมเทศกาลด้วยการย่างเค้กข้าวและร่วมดื่มสาเกอามะ (เป็นไวน์ข้าวที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ต่ำ)
เที่ยวญี่ปุ่น เทศกาลโยโคเตะคามาคูระ (Yokote Kamakura Festival) มีประวัติความเป็น พื้นที่ที่จัดงานเทศกาลจะอยู่บริเวณทางทิศตะวันออกของสถานีรถไฟ Yokote Station ตลอดจนถึงปราสาทโยโคเตะ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากแม่น้ำโยโคเตะไปประมาณ 2 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวจะสามารถมองเห็นบรรยากาศอันสวยงามของกระท่อมน้ำแข็งที่สร้างเรียงรายกันอยู่ทั่วพื้นที่ หรือสามารถมีส่วนร่วมในการสร้างกระท่อมคามาคูระได้ที่สวนสาธารณะโคเมียวจิ (Komyoji Park)
Klook.comณ หอคามาคุระคัง (Kamakurakan Hall) ได้รักษากระท่อมน้ำแข็งคามาคูระ 2 หลัง ไว้ตลอดทั้งปีในห้องที่มีอุณหภูมิ -10 องศาเซลเซียส เพื่อนักท่องเที่ยวจะได้เห็นกระท่อมหิมะของจริงแม้ในช่วงฤดูกาลอื่น ในพื้นที่ใกล้เคียงยังมีรูปปั้นหิมะ และซุ้มอาหารพร้อมจำหน่ายทำให้บรรยากาศมีชีวิตชีวามากขึ้น
ตลอดริมทางแม่น้ำโยโคเตะ (Yokote River) มีโคมไฟกระท่อมคามาคูระขนาดเล็กกว่า 100 อันที่สว่างไสวด้วยแสงเทียนจนถึงเวลา 21:00 ส่วนบริเวณโรงเรียนประถมมินามิ ก็ยังมีรูปปั้นหิมะและกระท่อมคามาคูระเล็กๆ สำหรับเด็กๆได้สนุกสนานไปกับการเล่นหิมะและสไลด์หิมะ
ลานบ้านหิมะคามาคุระ
สามารถชมบ้านหิมะจากสถานที่ต่างๆ ภายในเมืองได้ระหว่างช่วงเวลาจัดงานเทศกาลหิมะ
สถานที่จัดงานหลัก: สวนสาธารณะ Doro Koen ด้านหน้า Yokote City Hall
วิธีการเดินทาง : เดินจากสถานีโยโกเตะมาถึง Yokote City Hall ประมาณ 10 นาที
ลานจัดพิธีบงเด็น
สำหรับใครที่อยากเห็นฉากการถวายเครื่องสักการะสุดขึงขังซึ่งนับเป็นไฮไลท์ของงานนี้ก็ขอแนะนำให้ล่วงหน้าไปยังศาลเจ้าอาซาฮิโอกายามะ
สถานที่จัดงาน : ลานกว้างด้านหน้า Yokote City Hall ไปจนถึงศาลเจ้า Asahiokayama Shrine (ประมาณ 3 กิโลเมตร)
วิธีการเดินทาง : เดินจากสถานีโยโกเตะมาถึง Yokote City Office ประมาณ 10 นาที
ปราสาทโยโคเตะ (Yokote Castle)
ห่างออกไปจากเมืองทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ มีเส้นทางปีนขึ้นสู่เนินเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของปราสาทโยโคเตะ ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 10-15 นาที เป็นปราสาทที่ได้รับการบูรณะใหม่ให้เป็นคอนกรีต มีทั้งหมด 4 ชั้น โดยจุดชมวิวจากบนปราสาทมองเห็นวิวทิวทัศน์อันสวยงามของเมือง
เวลาเปิด-ปิด: 9:00-16:30 และช่วงเทศกาลเปิด 10:00-21:00
วันปิดทำการ: เดือนธันวาคม-มีนาคม
ภูมิอากาศ
ฤดูใบไม้ผลิ : มีนาคม เมษายน พฤษภาคม
เมื่อดอกบ๊วยเบ่งบาน เป็นสัญญาณว่าฤดูหนาวกำลังจะหมดไปและฤดูใบไม้ผลิกำลังจะมาถึง หลังจากนั้นดอกซากุระก็จะเริ่มบานตามมาและจะเบ่งบานสะพรั่งสวยงามที่สุดในแถบโตเกียวระหว่างช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน ในช่วงฤดูกาลนี้ทิวทัศน์ของภูเขาทุ่งนาและสวนต่างๆจะปกคลุมไปด้วยสีชมพูสวยงามดูอ่อนหวานนุ่มนวล
เสื้อที่ควรเตรียมไป
ถ้าไปต้นฤดูใบไม้ผลิ จะยังเป็นรอยต่อของช่วงฤดูหนาวอยู่อากาศยังหนาวสำหรับคนไทย ควรเตรียมแจ็กเก็ตและสเว็ตเตอร์กันหนาวไป เตรียมเสื้อด้านในที่ให้ความอบอุ่นไปและสวมเสื้อคลุม แจ็กเก็ตหรือคาร์ดิแกน หรือเสื้อคลุมบางตัวยาว ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่
ควรเตรียมกางเกงขายาว กางเกงขายาวแนบเนื้อตัวหนา ถุงน่องแบบหนา และถุงเท้ายาว พร้อมรองเท้าหุ้มส้น หรือรองเท้าบูทแบบหุ้มข้อ
ฤดูร้อน : มิถุนายน กรกฎาคม สิงหาคม
ฤดูร้อน ของญี่ปุ่นจะเริ่มขึ้นในเดือนมิถุนายน กับ มีฝนตกร่วม 3 – 4 สัปดาห์ นี่คือเวลาที่สำคัญสำหรับเกษตรกรสำหรับการปลูกข้าว และหลังจากเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไปอากาศจะชื้นและร้อนขึ้นอย่างมาก ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากจึงนิยมไปเที่ยวทะเลเพื่อว่ายน้ำ และพักผ่อนตามบ้านพักตากอากาศในภูเขาที่มีอากาศเย็นสบาย ฤดูร้อนยังเป็นช่วงที่มีงานเทศกาลและมีการจัดกิจกรรมที่น่าสนใจขึ้นมากมายทั่วประเทศ
เสื้อที่ควรเตรียมไป
เสื้อผ้าแบบเมืองร้อน เสื้อแขนกุดพร้อมเสื้อทับด้านนอก เสื้อยืดแขนสั้น ชุดเดรส กางเกงหรือกระโปรงสั้น กางเกงขายาว ถุงเท้าแบบสั้น รองเท้าหุ้มส้นธรรมดาหรือ รองเท้าสาน โลชั่นกันแดด ชุดว่ายน้ำ แว่นตากันแดด หมวกสำหรับกันแดด แต่ควรให้นำแจ็กเก็ตหรือเสื้อคลุมอย่างบางไปด้วย สำหรับถ้าอากาศเย็นในช่วงกลางคืน และไม่ควรลืมผ้าเช็ดหน้า ผ้าฝ้าย หรือผ้าขนหนูผืนเล็กๆ สำหรับเช็ดเหงื่อ
ฤดูใบไม้ร่วง : กันยายน ตุลาคม พฤศจิกายน
ฤดูใบไม้ร่วง จะนำความสดชื่นมาพร้อมกับสายลมที่พัดเบาๆและอุณหภูมิที่เย็นสบายหลังจากความร้อนและชื้นของฤดูร้อนหมดไป ป่าทั้งผืนจะถูกย้อมด้วยสีสันของฤดูใบไม้ร่วงที่สวยงาม ดอกเก๊กฮวยที่บานสะพรั่งงดงามร่ายมนต์ให้นักท่องเที่ยวต้องเข้ามาเยี่ยมเยือนเพื่อชมตามสวนสาธารณะและสวนดอกไม้ต่างๆ ฤดูใบไม้ร่วงยังเป็นฤดูกาลสำหรับการจัดนิทรรศการมากมายในญี่ปุ่น รวมถึงการแสดงดนตรีและการแข่งขันกีฬาต่างๆ
เสื้อที่ควรเตรียมไป
แม้อากาศจะไม่หนาว เท่าฤดูหนาว แต่จะมีลมเย็นๆพัดตลอดทั้งวัน ควรเตรียมเสื้อคลุมแขนยาวสำหรับกันหนาวเพื่อสามารถถอดเข้า-ออกได้ในช่วงที่ออกนอกสถานที่ เสื้อผ้าที่ควรนำไป อาทิเช่น เสื้อยืดแขนยาว เสื้อแขนยาว เสื้อคอเต่าแขนยาว เสื้อคาร์ดิแกน เสื้อคลุม เสื้อแจ็กเก็ต สเว็ตเตอร์กันหนาว ผ้าพันคอแบบหนา กางเกงขายาว กระโปรงยาว กางเกงเล็กกิ้งตัวหนา ถุงน่องแบบหนา ถุงเท้า พร้อมรองเท้าหุ้มส้น หรือรองเท้าบู๊ท
ฤดูหนาว : ธันวาคม มกราคม กุมภาพันธ์
อุณหภูมิในฤดูหนาว ของที่ราบตลอดชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกนั้นมักจะไม่หนาวจัดจนต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส อากาศออกจะค่อนข้างแห้งและแจ่มใส ตอนกลางและตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่นเป็นภูมิภาคที่มีชื่อเสียงเรื่องกีฬาฤดูหนาวอย่างมาก ส่วนทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่นนั้นอากาศจะเย็นสบายและไม่หนาวจัดเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น
เสื้อที่ควรเตรียมไป
ชุดกันหนาว ไปให้พร้อม เสื้อและกางเกงแนบเนื้อด้านใน สำหรับให้ความอบอุ่นกับร่างกาย จำเป็นต้องมีเสื้อคลุมโอเวอร์โค๊ต ชุดผ้าขนสัตว์และแจ็คเก็ต ชนิดหนาเป็นพิเศษ ถ้าเป็นแบบกันน้ำได้ก็ยิ่งดี ผ้าพันคอแบบหนา ถุงมือ หมวกไหมพรมแบบกันหนาวได้ ถ้าหนาวมากอาจต้องมีที่ปิดหู ส่วนถุงเท้าให้ใส่แบบหนาๆ รองเท้าหุ้มข้อหรือรองเท้าบูทที่กันความหนาวเย็นและหิมะได้ ควรสวมใส่เสื้อผ้าให้อบอุ่นอยู่เสมอ
สกุลเงินและการแลกเปลี่ยนเงินตรา
สกุลเงินประเทศญี่ปุ่น เขียนเป็นภาษาญี่ปุ่น คือ “円” โดยจะมีสัญลักษณ์เป็น ” “¥” ซึ่งมีการเขียนตัวสะกดเป็น “Yen” หรือ “JPY” ในตัวอักษรต่างประเทศ
ฐานภาษีผู้บริโภค ในประเทศญี่ปุ่นอยู่ที่ 8% เนื่องจากราคาสินค้าที่แสดงไว้จะเป็นราคารวมภาษีหรือไม่แล้วแต่ร้านค้า กรุณาถามพนักงานว่าสินค้านั้นได้รวมภาษีไว้ด้วยหรือไม่ เพื่อที่จะได้ทราบราคาที่แน่นอนก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า
ไม่มีการจำกัดจำนวนเงิน ที่จะนำเข้าหรือนำออกจากประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นเงินสกุลใด อย่างไรก็ตาม หากมี การนำสกุลเงินใดๆ เช็ค ตราสาร หรือเงินในรูปแบบอื่นๆเข้าหรือออกจากประเทศญี่ปุ่นมูลค่ามากกว่า 1,000,000 เยนจะต้องทำการแจ้งต่อกรมศุลกากรให้เรียบร้อย
หน่วยสกุลเงินญี่ปุ่นคือเยน เหรียญที่มีใช้อยู่คือเหรียญ 1, 5, 10, 50, 100 และ 500 เยน
และธนบัตรที่มีใช้อยู่คือธนบัตรมูลค่า 1,000, 2,000, 5,000 และ 10,000 เยน
คุณสามารถซื้อเงินเยน ได้ที่ธนาคารรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และ ร้านรับแลกเปลี่ยนเงินตราที่ได้รับอนุญาตทั่วไป สำหรับเคาน์เตอร์แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในสนามบินระหว่างประเทศนั้นมักจะเปิดในเวลาทำการปกติ และ อัตราแลกเปลี่ยนจะมีความผันผวนในแต่ละวันแปรผันตามค่าของตลาดเงิน