Point of view
วัน-เวลาทำการ : เราจะติดต่อกลับในเวลาทำการ : จันทร์ - ศุกร์ 09.00 - 17.00
(หยุดวันเสาร์ - อาทิตย์ และ วันหยุดตามปฏิทิน)
ติดต่อข่าวสารโปรโมชั่นทัวร์
qrcode
@povtravel

เที่ยวตามรอยตำนานพระพุทธรูปพูดได้ที่สุโขทัย วัดศรีชุม

กรกฎาคม 22, 2020 | by Point of view

เที่ยวตามรอยตำนานพระพุทธรูปพูดได้ที่สุโขทัย วัดศรีชุม
ไปเที่ยวจังหวัดสุโขทัย เมืองแสนสง๊บ สงบ ที่อยู่ท่ามกลางวิถีชีวิตเรียบง่าย มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย วันนี้หมีพอยท์จะพาไปเที่ยวที่ วัดศรีชุม (พระพุทธรูปพูดได้) เป็นวัดที่ตั้งอยู่ในบริเวณของโบราณสถานในเขตอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่สำคัญ ภายในวิหารของวัดเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่รังสรรค์สร้างขึ้นด้วยศิลปะแบบสุโขทัยที่งดงาม จนกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญแห่งหนึ่ง ของนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่มีโอกาสได้แวะเวียนมายังเมืองสุโขทัย

คําขวัญ จังหวัด สุโขทัย “มรดกโลกล้ำเลิศ กำเนิดลายสือไทย เล่นไฟลอยกระทง ดำรงพุทธศาสนา งามตาผ้าตีนจก สังคโลกทองโบราณ สักการแม่ย่าพ่อขุน รุ่งอรุณแห่งความสุข”

“พระอจนะ” คำว่า อจนะ มีผู้ให้ความหมายพระอจนะว่าหมายถึงคำในภาษาบาลีว่า “อจละ” ซึ่งแปลว่า “ผู้ไม่หวั่นไหว มั่นคง” “ผู้ที่ควรแก่การเคารพกราบไหว้” พระอจนะเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขัดสมาธิราบ วัสดุปูนปั้น แกนในก่ออิฐและศิลาแลง หน้าตักกว้าง 11.30 เมตร สูง 15 เมตร องค์พระพุทธรูปมีขนาดใหญ่เต็มวิหาร ศิลปะแบบสุโขทัย

เรียนรู้มรดกโลกทางวัฒนธรรมที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อดีตเมืองราชธานีศูนย์กลางความเจริญรุ่งเรือง  วัดศรีชุม เป็นโบราณสถานที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองสุโขทัย สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพ่อขุนรามคำแหง ในวัดปรากฏโบราณสถานขนาดใหญ่ลักษณะมณฑปรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นขนาดใหญ่เต็มมณฑป ซึ่งสันนิษฐานว่าในอดีตตัวมณฑปน่าจะมีหลังคาคล้ายโดม ตัวมณฑปนั้นตั้งอยู่บนฐานสูง ด้านหน้าเปิดเป็นช่องเห็นพระพักตร์พระพุทธรูปงดงามแต่ไกล

เที่ยวตามรอยตำนานพระพุทธรูปพูดได้ที่สุโขทัย วัดศรีชุม ภายในวัดศรีชุมแห่งนี้เอง มีเรื่องราวที่นาสนใจเป็นเล่าสืบต่อกันมาว่า พระพุทธรูปที่ประดิษฐานภายในวัดแห่งนี้ซึ่งมีชื่อเรียกว่า “พระพุทธอจนะ” นั้นเป็นพระพุทธรูปที่พูดได้ ซึ่งตามตำนานกล่าวไว้ว่าครั้งหนึ่งเมื่อครั้งองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้ทรงยกกองทัพไปปราบกฎที่เมืองสวรรคโลก ได้มีการเรียกชุมนุมเหล่าแม่ทัพนายกองและทหารที่วัดศรีชุมก่อน แต่การทำศึกสงครามในครั้งนี้เหล่าทหารทั้งหลายไม่ค่อยมีกำลังใจในการสู้รบ เพราะเป็นการที่คนไทยต้องฆ่าฟันกันเอง ด้วยปฏิภาณไหวพริบของสมเด็จพระนเรศวรที่ต้องการสร้างขวัญและกำลังใจในการรบให้แก่เหล่าทหารของพระองค์ จึงได้จัดให้มีพิธีเสี่ยงทายกับพระพุทธรูป โดยพระองค์ได้เสี่ยงทายว่า หากการรบครั้งนี้หาจะมีชัยชนะกลับมาก็ขอให้พระพุทธอจนะจงกล่าวตอบ แต่ถ้าหากการรบในครั้งนี้ไม่ชนะก็ไม่ต้องตอบสิ่งใด ซึ่งผลของการเสี่ยงทายก็คือ พระพุทธอจนะก็ได้กล่าวตอบกลับมา เหล่าทหารทั้งหลายที่ได้สดับรับฟังล้วนคิดว่าพระสุรเสียรขององค์พระพุทธรูปเป็นปาฏิหารย์ขององค์พระพุทธอจนะ ของวัดศรีชุมแห่งนี้ ส่งผลให้กองทัพของสมเด็จพระนเรศวรมีขวัญกำลังใจในการทำศึกสงครามเพื่อบ้านเมืองเพิ่มขึ้นเป็นอันมาก

เที่ยวตามรอยตำนานพระพุทธรูปพูดได้ที่สุโขทัย วัดศรีชุม - 2

แต่ทว่าในความเป็นจริงแล้ว เสียงที่หลายคนเข้าใจว่าเป็นเสียงของพระพทุธรูปนั้น เป็นกุศโลบายอันชาญฉลาดขององค์พระนเรศวร ที่ได้มีรับสั่งให้คนปีนขึ้นไปซ่อนตัวอยู่ในช่องอุโมงค์เล็กๆ ด้านหลังพระเศียรของพระพุทธอจนะและให้ส่งเสียงตอบองค์พระนเรศวร เพื่อเป็นการปลุกขวัญทหารกำลังใจเหล่าทหารให้ฮึกเหิมมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งจำอย่างยิ่งในการทำศึกสงคราม โดยการส่งคนขึ้นไปพูดในช่องอุโมงค์ด้านหลังขององค์พระพุทธรูปนั้น ก็จะทำให้เกิดเสียงพูดก้องกังวาลราวกับพระพุทธรูปพูดได้จริง จึงเป็นที่มาของเรื่องราวที่เล่าสืบต่อกันมาของพระพุทธรูปได้ ณ วัดศรีชุมแห่งอาณาจักรสุโขทัยแห่งนี้

วัดศรีชุม ถือเป็นสัญลักษณ์ทางการท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดสุโขทัย  วัดศรีชุม เป็นโบราณสถานที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองสุโขทัย สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพ่อขุนรามคำแหง ในวัดปรากฏโบราณสถานขนาดใหญ่ลักษณะมณฑปรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นขนาดใหญ่เต็มมณฑป ซึ่งสันนิษฐานว่าในอดีตตัวมณฑปน่าจะมีหลังคาคล้ายโดม ตัวมณฑปนั้นตั้งอยู่บนฐานสูง ด้านหน้าเปิดเป็นช่องเห็นพระพักตร์พระพุทธรูปงดงามแต่ไกล

ตัวโบราณสถานประกอบด้วยอาคารหลัก 2 หลัง หลังแรกเป็นมณฑป รูปสี่เหลี่ยมกว้าง 32 คูณ 32 ม. สูง 15 ม. ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปที่มีชื่อว่า พระอจนะ ในด้านหน้า เป็นวิหารหลวงมี 6 ห้อง ปรากฏในศิลาจารึกว่า “เบื้องตีนนอน” อยู่ทางทิศเหนือ จะมีพระพุทธรูปใหญ่ “เบื้องหัวนอน” จะอยู่ทางทิศใต้ สมัยพ่อขุนรามคำแหงโปรดให้สร้างมณฑปครอบพระพุทธรูปไว้ และในสมัยพระเจ้าลิไทโปรดให้ก่อผนังใหม่อีกข้างให้ห่างจากผนังเดิม 1 เมตร 50 ซ.ม. โดยช่องว่างให้ทำบันได ทำอุโมงค์ขึ้นไปทางด้านหลังองค์พระ ผนังของอุโมงค์นี้โปรดให้ไปแกะหินชนวน จากเจดีย์เก้ายอดที่วัดมหาธาตุที่แกะ สลักเป็นเรื่องราวชาดก 550 พระชาติ และในส่วนที่แกะหินชนวนโปรดให้สร้างพระสาวกปางลีลากระทำอัญชลีขึ้นแทน ในการสร้างมณฑปที่มีผนัง 2 ชั้นนั้นได้รับอิทธิพลศิลปะโปโลนนารวะของลังกา ซึ่งแพร่หลายมากในสมัยปรกมพาหุ ในสมัยพ่อขุนรามคำแหง นิยมสร้างพระอัฏฐารส และสมัยพระยาลิไทนิยมสร้างพระสาวกลีลา

สถานที่ : วัดศรีชุม อยู่ใน อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย

ขอบคุณข้อมูล จาก : คลิกที่นี่

ประวัติจังหวัดสุโขทัย

จังหวัดสุโขทัย เป็นที่ตั้งอาณาจักรแรกของชนชาติไทยเมื่อ ๗๐๐ ปีที่แล้ว คำว่า “สุโขทัย” มาจากสองคำ คือ “สุข+อุทัย” หมายความว่า “รุ่งอรุณแห่งความสุข” รอยอดีตแห่งความรุ่งเรือง เห็นได้จากอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย และ ศรีสัชนาลัย ซึ่งเป็นที่รู้จักของชาวไทยและ ต่างประเทศ

ประวัติสุโขทัยเริ่ม พ.ศ. ๑๘๐๐ เมื่อพระยาศรีนาวนัมถม พระบิดาพ่อขุนผาเมือง ได้ปกครองเมืองสุโขทัยเรื่อยมาจนสิ้นพระชนม์ ขอมสมาดโขลญลำพงข้าหลวงจากราชอาณาจักรขอมได้เข้ายึดครองเมือง ขุนบางกลางหาวและพ่อขุนผาเมืองจ้าวเมืองราดได้ยึดเมืองคืน และสร้างเมืองสุโขทัยขึ้นเป็นราชธานี มีขุนบางกลางหาวพระนามใหม่ว่าพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ เป็นปฐมกษัตริย์ปกครองเมืองสุโขทัย อาณาจักรแห่งแรกของประเทศไทย 

ในสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราชโอรสของพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ได้แผ่อาณาจักรออกไปกว้างขวางคลุมเขตประเทศไทยเกือบหมด บ้านเมืองเจริญทุกด้าน ไม่ว่าด้านประวัติศาตร์ ยุทธศาสตร์ กฏหมาย การปกครอง เศรษฐกิจ ศาสนา และวัฒนธรรมประเพณี เฉพาะอย่างยิ่งทรงประดิษฐ์อักษรไทยขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๑๘๒๖  อักษรไทยที่ทรงประดิษฐ์นี้ได้จารึกไว้ในแผ่นศิลามากมาย ศิลาจารึกเหล่านี้เป็นหลักฐานสำคัญให้รู้เรื่องเมืองสุโขทัยมากขึ้น

สุโขทัยเป็นราชธานีแห่งแรกของราชอาณาจักรไทย สิ่งสำคัญที่จะต้องระลึก ก็คือมหาราชพระองค์แรกของไทย ได้ถือกำเนิดขึ้น ณ สุโขทัยแห่งนี้พระองค์ทรงปกครองไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินให้ได้รับความร่มเย็นเป็นสุขกับได้ขยายดินแดน ออกไปอย่างกว้างใหญ่ไพศาล และเจริญรุ่งเรืองอย่างสูงสุดในช่วงเวลานั้น จากร่องรอยและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ได้ชีให้เห็นว่า ศิลปวัฒนธรรมของความเป็นไทยได้เริ่มต้น ณ แห่งนี้ วิทยาการความรู้ความสามารถ และเทคโนโลยีแขนงต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีภาษา และ หนังสือของตนเองได้บ่งบอกถึงอารยธรรมอันสูงส่งของคนไทยได้เริ่มขึ้น และ วิวัฒนาการเป็นมรดกตกทอดถึงลูกหลานไทยได้สืบทอดต่อกันมาจนตราบเท่าทุกวันนี้

การเดินทาง

ตั้งอยู่บนถนนจรดวิถีถ่อง ตรงข้ามพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง ห่างจากตัวเมืองสุโขทัยมาตามทางหลวงหมายเลข 12 (สุโขทัย-ตาก) ประมาณ 12 กม.

ไปผ่อนคลายกับความสวยงามของดินแดนเก่าแก่ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยที่เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 06.00-21.00 น. นักท่องเที่ยวชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 30 บาท และเวลา 9.00-21.00 น. โบราณสถานต่างๆ ถูกสาดส่องด้วยแสงไฟ

สนใจเดินทางท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลกกับหมีพอยท์ ได้เลย คลิก http://povtravel.co.th/


ค้นหาที่พักในสุโยทัย คลิก

Booking.com