พาไปส่องเทศกาลหน้ากาก คาร์นิวัล แห่งเมืองเวนิส เทศกาลคาร์นิวัลหน้ากากเมืองเวนิส เป็นงานคาร์นิวัลสวมหน้ากากที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มีมาตั้งแต่ปี 1268 แต่การเฉลิมฉลองโดยมีสวมหน้ากากรวมถึงแต่งองค์ทรงเครื่องกันอย่างอลังการนั้น ดูเหมือนจะเพิ่งมีขึ้นในเกือบ 200 ปีให้หลัง เมื่อช่างทำหน้ากากหรือ “mascareri” ได้รวมตัวกันก่อตั้งสมาคมขึ้นอย่างเป็นทางการในปี 1436 และจัดงานรื่นเริงสวมหน้ากากขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ชาวเมืองทุกคนได้สนุกสนานรื่นเริงตามใจชอบ ก่อนที่จะเริ่มวันถือบวชในศาสนาคริสต์ ซึ่งจะมีการถือศีลอดเป็นเวลา 40 วันก่อนถึงวันอีสเตอร์ และยังเป็นการเริ่มต้นฤดูกาลเกษตรด้วย

เมืองเวนิส หรือที่ชาวอิตาลีเรียกว่าเวเน็ตเซีย (Venezia) เป็นเมืองหลวงของแคว้น เวเนโต ในบรรดาเมืองท่องเที่ยวของอิตาลี เมืองเวนิส ดูจะเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะที่แตกต่างจากทุกเมืองในโลก เป็นเมืองที่ตั้งอยู่กลางทะเลสาบที่สวยงามจนได้ฉายาว่าเป็น “ราชินีแห่งทะเลอาเดรียติก” และเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสีสันแห่งศิลปวัฒนธรรมและดนตรียามค่ำคืน (The City of Light)

ต่อมาในปี 1797 หลังจากการยึดครองของกองทัพของนโปเลียน กษัตริย์ฝรั่งเศสแต่มีพ่อแม่เชื้อสายอิตาเลียนจากทัสคานี แต่นโปเลียนยึดเวนิสได้เพียงช่วงเวลาสั้นๆ ก็สูญเสียเวนิสให้แก่อาณาจักรออสเตรีย ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปการยึดครองนำมาซึ่งการสั่งห้ามการจัดงานเฉลิมฉลองงานรื่นเริงเป็นเวลาหลายปี ผู้คนไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้หน้ากากเปเปอร์มาเช่เพื่อปกปิดหน้าตา และงานเต้นรำสวมหน้ากากก็ถูกสั่งห้ามจัด จนกระทั่งทศวรรษที่ 1970 ประเพณีดั้งเดิมดังกล่าวถูกฟื้นขึ้นมาใหม่ เมื่อกลุ่มของอดีตนักศึกษาอคาเดมี ออฟ ไฟน์ อาร์ต ได้เปิดร้านขายหน้ากากสมัยใหม่แห่งแรกของกรุงเวนิสขึ้นในปี 1978 เทศกาลหน้ากากเวนิสก็ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาอีกครั้งและกลายเป็นเทศกาลสำคัญของชาวเวนิส จนถึง ณ ปัจจุบันนี้

ในสมัยก่อนเมื่อศตวรรษที่ 18 ถือเป็นยุคที่รุ่งเรืองมากของการสวมหน้ากาก ชาวเวนิสนั้นสวมหน้ากากกันถือเป็นเรื่องปกติสำหรับชีวิตประจำวันเลยทีเดียว ผู้คนในสาธารณรัฐเวนิสสวมหน้ากากออกจากบ้านถึงปีละ 8 เดือน ลองคิดภาพตามกันดูนะคะว่าเมืองจะเต็มไปด้วยเสน่ห์ลึกล้ำเพียงใด เมื่อผู้คนไม่ว่าจะยากดีมีจนซ่อนหน้าตาสถานะของตนไว้ภายใต้หน้ากาก และใช้ชีวิตอย่างเต็มที่แบบไม่ต้องแคร์ใคร แต่หลังจากการยึดครองของกองทัพนโปเลียนในปี 1797 เมื่อเวนิสกลายเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรลอมบาร์ดี-เวเนเทีย ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป การยึดครองนำมาซึ่งการสั่งห้ามการจัดงานเฉลิมฉลองงานรื่นเริงเป็นเวลาหลายปี ผู้คนไม่ได้รับอนุญาต ให้ใช้หน้ากากเปเปอร์มาเช่เพื่อปกปิดหน้าตา และงานเต้นรำสวมหน้ากากก็ถูกห้าม จนกระทั่งทศวรรษที่ 1970 ประเพณีดั้งเดิมดังกล่าวถูกฟื้นขึ้นมาใหม่  เมื่อกลุ่มอดีตนักศึกษาของ Academy of Fine Art ได้รื้อฟื้นเทศกาลหน้ากากขึ้นมาใหม่ ได้เปิดร้านขายหน้ากากสมัยใหม่แห่งแรกของกรุงเวนิสขึ้นในปี 1978 ผู้คนจะสวมใส่เสื้อผ้าหลากสีที่สวยงามอลังการงานสร้าง ทุกคนจะออกมาเดินฉลองกันบนท้องถนน กิน ดื่ม ใช้ชีวิตแบบที่ไม่ต้องกลัวใครจำได้ จะเป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งหนึ่งในชีวิต ที่ทำให้ไม่มีวันลืมอย่างแน่นอน

พาไปส่องเทศกาลหน้ากาก คาร์นิวัล แห่งเมืองเวนิส เป็นเทศกาลเก่าแก่ของอิตาลีที่มีมานานหลายร้อยปี และได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยเป็นงานเฉลิมฉลองของคริสต์ศาสนิกชนก่อนเข้าเทศกาลมหาพรต หรือการถือศีลอดที่มีระยะเวลา 40 วัน ก่อนถึงวันอีสเตอร์

โดยงานเทศกาลซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำในช่วงเดือน ก.พ. ของทุกปี จะมีประชาชนเดินทางไปร่วมพิธีเปิดกันอย่างเนืองแน่นที่จตุรัสเซนต์มาร์ค โดยมีขบวนเรือทางน้ำ ขณะที่ผู้ร่วมงานจะสวมหน้ากากและแต่งกายด้วยชุดย้อนยุคที่เต็มไปด้วยสีสันงดงาม

ประเภทของหน้ากากที่สวมในคาร์นิวัลของเวนิส

1. หน้ากากแบบ Commedia dell’Arte ซึ่งเป็นละครตลกในยุคศตวรรษที่ 16-18 ของอิตาลี จะเป็นหน้ากากที่ทำขึ้นตามตัวละครเช่นตัวตลกอย่าง ฮาร์เลควิน กับ ปิเอโรต์

2. หน้ากากแฟนตาซี ประดิษฐ์ขึ้นตามจินตนาการของช่างทำหน้ากาก ซึ่งส่วนใหญ่จะได้รับแรงบันดานใจมาจากการศิลปะการออกแบบในประวัติศาสตร์

3. หน้ากากแบบดั้งเดิมของชาวเวนิส เช่น หน้ากากสีขาวธรรมดา, หน้ากากขาวปลายแหลมคล้ายปากนก

ขอบคุณข้อมูล : คลิกที่นี่

ประวัติศาสตร์ Venice

Venice เป็นเมืองหลวงของ แคว้นเนโต ประเทศอิตาลี มีประชากร 271,663 คน เมืองเวนิสได้รับฉายาว่า ราชินี แห่งทะเลอาเดรียตริก , เมืองแห่งสายน้ำ , เมืองแห่งสะพาน , และ เมืองแห่งแสงสว่าง เมืองเวนิสถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็กๆ จำนวนมากเข้าด้วยกันในบริเวณทะเลสาบเวนิเทีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลอาเดรียตริก ในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ทะเลสาบน้ำเค็มนี้ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งระหว่างปากแม่น้ำโปกับแม่น้ำพลาวี เป็นเมืองที่มีคลองมากที่สุดในโลก ใช้คลองในการคมนาคมมากที่สุด มีอาคาร ร้าน บ้านเมืองตั้งริมคลอง มีเรือบริการในการเดินทางไปในที่ต่างๆของเมืองมีการบริการท่องเที่ยวชมทิวทัศน์ธรรมชาติของ 2 ฝั่งคลองโดยทางเรือ นับเป็นเมืองที่คลองมากกว่าถนนอีกเมืองหนึ่งของโลก มีผู้อยู่อาศัยโดยประมาณ 272,000 คน ซึ่งนับรวมหมดทั้งเวนิส โดยมี 62,000 คนในบริเวณเมืองเก่า 176,000 คนในเทอร์ราเฟอร์มา (Terraferma) และ 31,000 คนในเกาะอื่นๆ ในทะเลสาบ

เวนิส เป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวตลอดปี เนื่องจากมีการจัดงานตามเทศกาล คอนเสิร์ต โอเปร่า ละคร งานประกวดภาพยนตร์นานาชาติ งานเทศกาลสินค้า ตลาดนัด นิทรรศการงานศิลปะ การประชุมสัมมนา การแข่งขันกีฬา และกิจกรรมดึงดูดนักท่องเที่ยวอื่นๆ เฉลี่ยตลอดทั้งปี งานเทศกาลเก่าแก่และที่มีชื่อได้แก่ งาน Carnevale di venezia จัดประมาณกุมภาพันธ์ทุกปี  การแข่งเรือ (Vogalonga)จัด ประมาณเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ของทุกปี นอกจากนี้งานเทศกาลสำคัญอื่นๆ ได้แก่ La festa della Sensa, Il Redentore, La Regata Storica, La festa della Salute, La stagione remiera , ฯลฯ

ที่มา : https://sites.google.com/site/vaniceitaly/-venice-1

อุณหภูมิ: เฉลี่ยตลอดทั้งปีจะอยู่ที่ 8 องศาเซลเซียส ถึง 35 องศาเซลเซียส

เวลา: ช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง

สกุลเงิน: ยูโร (EUR) โดยมีอัตราเเลกเปลี่ยนอยู่ประมาณ 1 ยูโร เท่ากับ 37.95 บาท ตรวจสอบเหรทเงินได้ที่ https://www.superrichthailand.com/

ภาษา: ภาษาทางราชการคือภาษาอิตาลี เเต่ในเเหล่งท่องเที่ยวสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี

สนใจเดินทางท่องเที่ยวที่เวนิส โปรแกรมทัวร์คุณภาพดี บริการดี สามารถเข้าชมโปรแกรมผ่านเว็บได้เลย คลิก http://povtravel.co.th/