Point of view
วัน-เวลาทำการ : เราจะติดต่อกลับในเวลาทำการ : จันทร์ - ศุกร์ 09.00 - 17.00
(หยุดวันเสาร์ - อาทิตย์ และ วันหยุดตามปฏิทิน)
ติดต่อข่าวสารโปรโมชั่นทัวร์
qrcode
@povtravel

กิจกรรมฤดูหนาว สิ่งที่ต้องสวมใส่ ในฤดูหนาว ญี่ปุ่น , เกาหลี และยุโรป

มกราคม 23, 2020 | by Point of view

กิจกรรมฤดูหนาว ใครบ้างที่ยังคงตื่นเต้นและตื่นใจกับหน้าหนาวที่กำลังจะเริ่มเข้ามาอย่างจริงจัง สำหรับประเทศไทยของเรา หากลองย้อนสังเกตกลับไปดูวันสองวันก่อน เราจะรู้สึกว่าตอนเช้าและตอนกลางคืนอุณหภูมิรอบตัวเริ่มหนาวเย็นขึ้นมาแล้ว เป็นสัญญาณที่บ่งบอกได้ดีว่าเข้าสู่ช่วงหน้าหนาวแล้วนะ

กิจกรรมฤดูหนาว - 1
กิจกรรมฤดูหนาว – 1
กิจกรรมฤดูหนาว - 2
กิจกรรมฤดูหนาว – 2

หมวก

กิจกรรมฤดูหนาว ควรใส่หมวกไหมพรมที่ให้ความอบอุ่นปิดบังหูได้อย่างมิดชิด

กิจกรรมฤดูหนาว - 3
กิจกรรมฤดูหนาว – 3

ผ้าพันคอ

กิจกรรมฤดูหนาว ใช้ผ้าพันคอที่มีความหนานุ่ม ปกป้องคอให้ความอบอุ่นได้ดี

กิจกรรมฤดูหนาว - 4
กิจกรรมฤดูหนาว – 4
Klook.com

รองเท้าบูท

ขอแนะนำให้ใช้รองเท้าบูทกันน้ำกันลื่นที่เดินบนหิมะได้ และอาจจะเตรียมบูทหรือรองเท้าที่ใช้สำหรับทำกิจกรรมแต่ละประเภทเอาไว้ด้วย

ถุงเท้าสำหรับฤดูหนาว

เท้าเป็นส่วนที่ไวต่อความหนาวเย็นได้ง่าย ดังนั้นการสร้างความอบอุ่น ควรสวมใส่ถุงเท้าหนาสำหรับฤดูหนาวหรือสวมถุงเท้าซ้อนกัน 2 ชั้น เพื่อป้องกันความเย็น

ซองร้อน

ซองร้อนสำหรับใช้แล้วทิ้งจะร้อนขึ้นเมื่อสัมผัสอากาศเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความอบอุ่นให้แก่ร่างกายได้มากในฤดูหนาว

ถุงมือ

ต้องใช้ถุงมือที่กันน้ำและกันหนาวได้อย่างดี สำหรับถุงมือไหมพรมหรือหนังนั้นไม่เหมาะสำหรับทำกิจกรรมฤดูหนาวเนื่องจากหาสัมผัสหิมะด้วยถุงมือแล้วหิมะจะละลายและซึมเข้าถึงมือได้

เสื้อตัวนอก

ควรใช้เสื้อสกีที่มีคุณสมบัติกันน้ำและป้องกันความหนาวเย็นๆด้ดี หากไม่ได้น้ำมาด้วยก็สามารถหาเช่าได้ไม่ยาก ขอแนะนำให้ใช้แบบเสื้อโค้ทขนสัตว์ที่มีซิปหรือกระดุมซึ่งช่วยป้องกันหิมะและลมจากภายนอกได้ นอกจากนี้ยังควรใช้แบบมีฮู้ดหรือยาวคลุมลงไปจนถึงบั้นท้าย

กระเป๋า

เนื่องจากต้องเดินบนหิมะหรือถนนที่เป็นนำแข็งลื่นง่าย ดังนั้นควรใช้กระเป๋าเป้หรือกระเป๋าสะพายข้างเพื่อปล่อยให้มือว่างไว้จะได้คล่องตัว

ชุดท่อนล่าง

ควรใช้ชุดที่เหมือนกับกับตัวบนซึ่งเป็นชุดสกีหรือมีคุณสมบัติเทียบเท่าจะได้อุ่นใจมากกว่า หรือว่าใส่กางเกงยีนส์แล้วสุมกางเกงแนบตัวไว้ด้านในก็ได้เช่นเดียวกัน

ฤดูใบไม้ผลิ : มีนาคม เมษายน พฤษภาคม

เมื่อดอกบ๊วยเบ่งบานเป็นสัญญาณว่าฤดูหนาวกำลังจะหมดไปและฤดูใบไม้ผลิกำลังจะมาถึง หลังจากนั้นดอกซากุระก็จะเริ่มบานตามมาและจะเบ่งบานสะพรั่งสวยงามที่สุดในแถบโตเกียวระหว่างช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน ในช่วงฤดูกาลนี้ทิวทัศน์ของภูเขาทุ่งนาและสวนต่างๆจะปกคลุมไปด้วยสีชมพูสวยงามดูอ่อนหวานนุ่มนวล

เสื้อที่ควรเตรียมไป 

ถ้าไปต้นฤดูใบไม้ผลิ จะยังเป็นรอยต่อของช่วงฤดูหนาวอยู่อากาศยังหนาวสำหรับคนไทย ควรเตรียมแจ็กเก็ตและสเว็ตเตอร์กันหนาวไป เตรียมเสื้อด้านในที่ให้ความอบอุ่นไปและสวมเสื้อคลุม แจ็กเก็ตหรือคาร์ดิแกน หรือเสื้อคลุมบางตัวยาว ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่

ควรเตรียมกางเกงขายาว กางเกงขายาวแนบเนื้อตัวหนา ถุงน่องแบบหนา และถุงเท้ายาว พร้อมรองเท้าหุ้มส้น หรือรองเท้าบูทแบบหุ้มข้อ

ฤดูร้อน : มิถุนายน กรกฎาคม สิงหาคม

ฤดูร้อนของญี่ปุ่นจะเริ่มขึ้นในเดือนมิถุนายนกับมีฝนตกร่วม 3 – 4 สัปดาห์ นี่คือเวลาที่สำคัญสำหรับเกษตรกรสำหรับการปลูกข้าว และหลังจากเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไปอากาศจะชื้นและร้อนขึ้นอย่างมาก ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากจึงนิยมไปเที่ยวทะเลเพื่อว่ายน้ำ และพักผ่อนตามบ้านพักตากอากาศในภูเขาที่มีอากาศเย็นสบาย ฤดูร้อนยังเป็นช่วงที่มีงานเทศกาลและมีการจัดกิจกรรมที่น่าสนใจขึ้นมากมายทั่วประเทศ

เสื้อที่ควรเตรียมไป 

เสื้อผ้าแบบเมืองร้อน เสื้อแขนกุดพร้อมเสื้อทับด้านนอก เสื้อยืดแขนสั้น ชุดเดรส กางเกงหรือกระโปรงสั้น กางเกงขายาว ถุงเท้าแบบสั้น รองเท้าหุ้มส้นธรรมดาหรือ รองเท้าสาน โลชั่นกันแดด ชุดว่ายน้ำ แว่นตากันแดด หมวกสำหรับกันแดด แต่ควรให้นำแจ็กเก็ตหรือเสื้อคลุมอย่างบางไปด้วย สำหรับถ้าอากาศเย็นในช่วงกลางคืน และไม่ควรลืมผ้าเช็ดหน้า ผ้าฝ้าย หรือผ้าขนหนูผืนเล็กๆ สำหรับเช็ดเหงื่อ

ฤดูใบไม้ร่วง : กันยายน ตุลาคม พฤศจิกายน

ฤดูใบไม้ร่วงจะนำความสดชื่นมาพร้อมกับสายลมที่พัดเบาๆและอุณหภูมิที่เย็นสบายหลังจากความร้อนและชื้นของฤดูร้อนหมดไป ป่าทั้งผืนจะถูกย้อมด้วยสีสันของฤดูใบไม้ร่วงที่สวยงาม ดอกเก๊กฮวยที่บานสะพรั่งงดงามร่ายมนต์ให้นักท่องเที่ยวต้องเข้ามาเยี่ยมเยือนเพื่อชมตามสวนสาธารณะและสวนดอกไม้ต่างๆ  ฤดูใบไม้ร่วงยังเป็นฤดูกาลสำหรับการจัดนิทรรศการมากมายในญี่ปุ่น รวมถึงการแสดงดนตรีและการแข่งขันกีฬาต่างๆ

เสื้อที่ควรเตรียมไป 

ฤดูใบไม้ร่วง : กันยายน ตุลาคม พฤศจิกายน

ฤดูใบไม้ร่วงจะนำความสดชื่นมาพร้อมกับสายลมที่พัดเบาๆและอุณหภูมิที่เย็นสบายหลังจากความร้อนและชื้นของฤดูร้อนหมดไป ป่าทั้งผืนจะถูกย้อมด้วยสีสันของฤดูใบไม้ร่วงที่สวยงาม ดอกเก๊กฮวยที่บานสะพรั่งงดงามร่ายมนต์ให้นักท่องเที่ยวต้องเข้ามาเยี่ยมเยือนเพื่อชมตามสวนสาธารณะและสวนดอกไม้ต่างๆ  ฤดูใบไม้ร่วงยังเป็นฤดูกาลสำหรับการจัดนิทรรศการมากมายในญี่ปุ่น รวมถึงการแสดงดนตรีและการแข่งขันกีฬาต่างๆ

เสื้อที่ควรเตรียมไป 

แม้อากาศจะไม่หนาวเท่าฤดูหนาวแต่จะมีลมเย็นๆพัดตลอดทั้งวัน ควรเตรียมเสื้อคลุมแขนยาวสำหรับกันหนาวเพื่อสามารถถอดเข้า-ออกได้ในช่วงที่ออกนอกสถานที่ เสื้อผ้าที่ควรนำไป อาทิเช่น เสื้อยืดแขนยาว เสื้อแขนยาว เสื้อคอเต่าแขนยาว เสื้อคาร์ดิแกน เสื้อคลุม เสื้อแจ็กเก็ต สเว็ตเตอร์กันหนาว ผ้าพันคอแบบหนา กางเกงขายาว กระโปรงยาว กางเกงเล็กกิ้งตัวหนา ถุงน่องแบบหนา ถุงเท้า พร้อมรองเท้าหุ้มส้น หรือรองเท้าบู๊ท

แม้อากาศจะไม่หนาวเท่าฤดูหนาวแต่จะมีลมเย็นๆพัดตลอดทั้งวัน ควรเตรียมเสื้อคลุมแขนยาวสำหรับกันหนาวเพื่อสามารถถอดเข้า-ออกได้ในช่วงที่ออกนอกสถานที่ เสื้อผ้าที่ควรนำไป อาทิเช่น เสื้อยืดแขนยาว เสื้อแขนยาว เสื้อคอเต่าแขนยาว เสื้อคาร์ดิแกน เสื้อคลุม เสื้อแจ็กเก็ต สเว็ตเตอร์กันหนาว ผ้าพันคอแบบหนา กางเกงขายาว กระโปรงยาว กางเกงเล็กกิ้งตัวหนา ถุงน่องแบบหนา ถุงเท้า พร้อมรองเท้าหุ้มส้น หรือรองเท้าบู๊ท

ฤดูหนาว : ธันวาคม มกราคม กุมภาพันธ์

อุณหภูมิในฤดูหนาวของที่ราบตลอดชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกนั้นมักจะไม่หนาวจัดจนต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส อากาศออกจะค่อนข้างแห้งและแจ่มใส  ตอนกลางและตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่นเป็นภูมิภาคที่มีชื่อเสียงเรื่องกีฬาฤดูหนาวอย่างมาก ส่วนทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่นนั้นอากาศจะเย็นสบายและไม่หนาวจัดเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น

เสื้อที่ควรเตรียมไป 

ชุดกันหนาวไปให้พร้อม เสื้อและกางเกงแนบเนื้อด้านใน สำหรับให้ความอบอุ่นกับร่างกาย จำเป็นต้องมีเสื้อคลุมโอเวอร์โค๊ต ชุดผ้าขนสัตว์และแจ็คเก็ต ชนิดหนาเป็นพิเศษ ถ้าเป็นแบบกันน้ำได้ก็ยิ่งดี ผ้าพันคอแบบหนา ถุงมือ หมวกไหมพรมแบบกันหนาวได้ ถ้าหนาวมากอาจต้องมีที่ปิดหู ส่วนถุงเท้าให้ใส่แบบหนาๆ รองเท้าหุ้มข้อหรือรองเท้าบูทที่กันความหนาวเย็นและหิมะได้ ควรสวมใส่เสื้อผ้าให้อบอุ่นอยู่เสมอ

สภาพอากาศ ที่ เกาหลี

อุณภูมิโดยเฉลี่ยของเกาหลี ที่เกาหลีจะแบ่งออกเป็น 4 ฤดูกาล

– ใบไม้ผลิ ของเกาหลี ช่วงเดือนมีนาคม – พฤษภาคม อุณหภูมิเกาหลีโดยเฉลี่ยช่วงนี้ 6 ถึง 16 องศา ช่วงนี้จะมีดอกไม้ค่อนข้างเยอะและสวยงาม ดอกไม้จะเริ่มผลิใบและแสงแดดกำลังสวยงาม เดินทางไปช่วงนี้ก็อากาศสบายๆ ใส่เสื้อผ้าสบายๆได้

– หน้าร้อน ของเกาหลี ช่วงเดือนมิถุนายน – สิงหาคม อุณหภูมิเกาหลีโดยเฉลี่ย 22 ถึง 38 องศา ขอบอกว่าช่วงนี้อากาศร้อนเหมือนบ้านเราเลย แต่อาจจะมีฝนตกบางวัน และช่วงนี้ต้นไม้จะเป็นสีเขียว ต้นหญ้าสีเขียว เดินทางช่วงนี้สำคัญเลยคือการพกร่มติดตัวไปด้วย แต่โดยเฉลี่ยส่วนมาราคาห้องพักตั๋วเดินทางต่างจะราคาถูกก็ช่วงนี้แหละ

– ฤดูใบไม้ร่วง – ใบไม้เปลี่ยนสีของเกาหลี ช่วงเดือนกันยายน – พฤศจิกายน อุณหภูมิโดยเฉลี่ย ของเกาหลี 5 ถึง 25 องศา ขอบอกว่าเกาหลีช่วงนี้อากาศสดชื่นมากๆ ท้องฟ้าแจ่มใส ใบไม้เปลี่ยนสี อย่างสวยงาม สำคัญคือช่วงนี้เป็นช่วงที่ผู้คนชอบในการเดินทางเที่ยวเป็นอย่างมากอะไรอะไรก็แพ๊งแพงแต่ก็คุ้มค่ากับราคา การแต่งกายนั้นจัดเต็มได้เลย เสื้อผ้าสีสันสวยงามถ่ายรูปกับธรรมชาติหลากสี

– ฤดูหนาว ของเกาหลี ช่วงเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ อุณหภูมิโดยเฉลี่ยของเกาหลี -5 ถึง -20 องศา อากาศของเกาหลีช่วงนี้จะแห้งและหนาวมาก เกาหลีหนาวจัด เกาหลีหนาวเวอร์ เกาหลีหนาวเหน็บ หรืออาจจะมีหิมะตกด้วยบางวัน สำคัญเลย การแต่งกายช่วงนี้เตรียมเสื้อผ้าที่สามารถทำความอุ่นให้ร่างกายได้มากที่สุด และอย่าลืมเตรียมแผ่นร้อนไปด้วยก็จะดี เดินทางช่วงนี้ห้ามพลาดกับการเล่นสกีล่ะ เด็ดมากๆ สำหรับฤดูกาลนี้ของเกาหลี

ถ้าเพื่อนถามว่า ” ไปเที่ยวเกาหลีช่วงไหนดี ?” ยกคำตอบด้านบนนี้ให้เพื่อนดูได้เลย เพราะเที่ยวได้ทุกฤดูซะขนาดนี้ เลือกได้ตามความชอบ และเงินในกระเป๋ากันเลยครับ

ฤดูกาลของยุโรป

ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม)

เป็นช่วงเดือนที่ยุโรปกลับมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่มีความวิเวกวังเวงและเยือกเย็นของฤดูหนาว ผ่านพ้นไปแล้วดอกไม้ใบหญ้าเริ่มผลิดอกออกใบทำให้มีชีวิตชีวา ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมไปเยือนยุโรปช่วงนี้มากที่สุด เพราะอยู่ระหว่างโรงเรียนปิดภาคฤดูร้อน และที่สำคัญคือเป็นช่วง ที่ดอกไม้ ในยุโรปเบ่งบานงดงามที่สุด โดยเฉพาะในฮอลแลนด์ มีงานเทศกาล ดอกทิวลิป และสวนพฤกษชาติเคอเคนฮอฟ (Keukenhof Garden) อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของ มวลดอกไม้นานาพันธุ์สดสีสวยงาม เปิดให้เข้าชมตอนกลางเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคมเท่านั้น อากาศกำลังสบายน่าเที่ยว อุณหภูมิเฉลี่ย 12-22 องศาเซลเซียส

ฤดูร้อน  (มิถุนายน –สิงหาคม) 

ฤดูแห่งความอบอุ่นและมีชีวิตของยุโรป ระหว่าง3-4 เดือนนี้ ทวีปยุโรปจะสว่างไสวไปด้วยแสงแดดอันอบอุ่นที่สุดในรอบปีในแต่ละวันจะมีแดด ให้เห็นจนถึง 4 ทุ่มจึงพลบค่ำ แม้แต่ชาวยุโรปผู้รักธรรมชาติเองก็พากันลาพักร้อนไปตากอากาศ หรือพักผ่อนกันอย่างมากมาย สถานที่ ท่องเที่ยว อันเป็นที่โปรดปรานที่เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เมษายนถึงเดือนตุลาคม อาทิ เมืองตุ๊กตามาดูโรดัม (Madurodam) ในฮอลแลนด์ อุทยานน้ำพุทิโวลี (Tivoli) ที่กรุงโรม และเรือล่องแม่น้ำไรน์ ในเยอรมัน อากาศโดยทั่วไปเย็นตอนเช้าตรู่ และหัวค่ำ กลางวันร้อนแต่ไม่อบอ้าว อุณหภูมิเฉลี่ย 18-30 องศาเซลเซียส

ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) 

โดยทั่วไปยังอบอุ่นเช่นเดียวกับฤดูร้อนที่ผ่านมาสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไปเปิดตามปกติ เหมือนฤดูร้อนจนกระทั่งปลายเดือนตุลาคม อากาศจึงเริ่มเย็นขึ้น แต่ยังถือเป็นฤดูน่าเที่ยวของยุโรปอยู่ เนื่องจากใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีจากสีเขียวสด เป็นเหลืองปนน้ำตาลแดง สอดสีเหลืองอร่ามไปทั่วทั้งทวีป อากาศกำลังเย็นสบาย อุณหภูมิเฉลี่ย 10-18 องศาเซลเซียส

ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) 

ถึงแม้เดือนแห่งความอบอุ่นของฤดูร้อนจะผ่านพ้นไปแล้ว แต่ยุโรปก็ยังเต็มไปด้วย เอกลักษณ์ของความเป็นเมืองหนาวอย่างน่าชมทีเดียว ประเทศที่มี ภูเขาสูง (อิตาลี, สวิส, ฝรั่งเศส) จะมีหิมะปกคลุมอยู่ขาวนวล ถึงอากาศจะเย็น แต่นักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากก็ยังหลั่งไหลมายุโรป มาเพื่อสัมผัสกับ บรรยากาศอันสุขสงบของหิมะเมืองหนาว ยุโรปฤดูนี้จะเงียบ ไม่พลุกพล่าน หรือแออัดด้วยนักท่องเที่ยว เหมือนในฤดูร้อน อุณหภูมิเฉลี่ย 1 ถึง -10 องศาเซลเซียส

ตัวอย่างกิจกรรม

Snow Shoeing…เดินเพลินบนหิมะ
“Snow Shoeing” เป็นกิจกรรมที่จะพาคุณไปสัมผัสกับธรรมชาติในฤดูหนาวได้อย่างใกล้ชิด โดยการสวมอุปกรณ์พิเศษบนพื้นรองเท้า ทำให้สามารถเดินบนหิมะได้อย่างง่ายดาย สนุกกันได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่

ในญี่ปุ่นมีสกีรีสอร์ตหลายแห่งที่ให้บริการกิจกรรม Snow Shoeing มีทั้งเดินแบบครึ่งวัน หรือ 1 วัน พร้อมกับไกด์ที่จะพาคุณไปสนุกกับการเดินท่ามกลางหิมะอันขาวโพลน ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้หนึ่งในสถานที่แนะนำสำหรับกิจกรรม Snow Shoeing คือ บริเวณอุระบันได ในจังหวัดฟุคุชิมะ ซึ่งมีเส้นทางการเดินบนหิมะชมธรรมชาติให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินรอบๆ บึงน้ำ 5 สี “โกะชิคินุมะ (Goshikinuma Ponds)” ซึ่งทัศนียภาพบริเวณนี้ในฤดูหนาวนั้นดูงดงามแตกต่างจากในฤดูกาลอื่นราวกับอยู่ในโลกแห่งจินตนาการเลยทีเดียว หรือเส้นทาง “น้ำตกโอะโนะงะวะ ฟุโดะทะคิ (Onogawa Fudotaki Waterfall)” น้ำตกขนาดใหญ่ที่กลายเป็นน้ำแข็งในฤดูหนาว ให้คุณได้ตื่นตาตื่นใจกับความอัศจรรย์ของธรรมชาติ เป็นต้น และหลังจากจบกิจกรรมเดินบนหิมะ คุณยังสามารถผ่อนคลายด้วยการแช่อนเซ็นแสนสบายได้อีกด้วย

Dog Sledding…สนุกกับกิจกรรมสุนัขลากเลื่อน

สัมผัสประสบการณ์ตื่นเต้นเร้าใจไปกับเหล่าสุนัขแสนรู้ที่จะนำคุณโลดแล่นด้วยความเร็วไปบนทุ่งหิมะขาวฟู ซึ่งมักจะใช้สุนัขสายพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ หรือสายพันธุ์อลาสกันฮัสกี้ เนื่องจากสามารถทนต่อความหนาวเย็นได้ โดยเจ้าสุนัขเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ผ่านการฝึกมาเป็นอย่างดีให้วิ่งพร้อมกันเป็นทีมลากเลื่อนที่นั่งมุ่งไปในทิศทางเดียวกันในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม มีให้บริการกิจกรรมสุนัขลากเลื่อนหลายแห่งในญี่ปุ่น โดยเฉพาะบริเวณทางฝั่งตะวันออกของฮอกไกโด ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีหิมะตกเยอะ จึงเหมาะกับกิจกรรมสุนัขลากเลื่อนเป็นอย่างมาก และยังมีทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามให้ได้เพลินตากันอีกด้วย

Kid’s Park…เล่นกิจกรรมหิมะได้ทั้งครอบครัว

ฤดูหนาวในประเทศญี่ปุ่น ไม่เพียงแค่เหมาะสำหรับผู้ใหญ่ แต่ยังมีกิจกรรมต่างๆที่เหมาะสำหรับเด็กอีกด้วย สกีรีสอร์ตหลายแห่งที่ญี่ปุ่นมีลานสกีและสวนสนุกสำหรับเด็ก หรือที่เรียกว่า “Kid’s Park” จัดเตรียมไว้ให้สนุกสนานกันได้ทั้งครอบครัว โดยมีกิจกรรมให้เลือกทำมากมาย อาทิ การนั่งเลื่อนหิมะลื่นไหลลงมาจากเนิน (Snow Sledding) การนั่งเรือยางที่ลากไถลไปบนหิมะ (Snow Rafting) รวมทั้งการปั้นตุ๊กตาหิมะ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีคลาสสอนการเล่นสกีและสโนว์บอร์ดเบื้องต้นสำหรับเด็กๆที่อยากจะฝึกเล่นอีกด้วยสำหรับผู้ปกครองที่ต้องการจะไปเล่นสกี สกีรีสอร์ตหลายแห่งยังมีบริการ Day Care ให้สามารถฝากบุตรหลานไว้ได้ด้วย

ที่มา https://www.jnto.or.th/winter2019/winteractivity/