Point of view
วัน-เวลาทำการ : เราจะติดต่อกลับในเวลาทำการ : จันทร์ - ศุกร์ 09.00 - 17.00
(หยุดวันเสาร์ - อาทิตย์ และ วันหยุดตามปฏิทิน)
ติดต่อข่าวสารโปรโมชั่นทัวร์
qrcode
@povtravel

ชมหอเอนเมืองปิซ่า หอเอน แต่ไม่ล้ม!

กรกฎาคม 23, 2020 | by Point of view

ชมหอเอนเมืองปิซ่า หอเอน แต่ไม่ล้ม! หอเอนเมืองปิซา (อิตาลี: Torre pendente di Pisa หรือ La Torre di Pisa; อังกฤษ: Leaning Tower of Pisa) ตั้งอยู่ที่เมืองปิซา ในจัตุรัสเปียซซา เดล ดูโอโม (Piazza Del Duomo) หอระฆังของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก เป็นหอทรงกระบอก 8 ชั้น สร้างด้วยหินอ่อนสีขาว สูง 183.3 ฟุต (55.86 เมตร) น้ำหนักรวม 14,500 ตันโดยประมาณ มีบันได 293 ขั้น เอียง 3.97 องศา ยอดของหอห่างจากแนวตั้งฉาก 3.9 เมตร

ชมหอเอนเมืองปิซ่า หอเอน แต่ไม่ล้ม! - 1

เริ่มสร้างเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ.1173 สร้างเสร็จเมื่อปี 1350 ใช้เวลาสร้างประมาณ 177 ปี แต่การก่อสร้างหยุดชะงักเมื่อสร้างไปได้ถึงชั้น 3 เนื่องจากพื้นใต้ดินเป็นพื้นดินที่นิ่ม ทำให้ยุบตัว ต่อมาในปี ค.ศ.1272 โดย จีโอแวนนี่ ดี สิโมน สร้างให้เอนกลับไปอีกด้านหนึ่งเพื่อให้สมดุล แต่การก่อสร้างในครั้งนี้ ก็ต้องหยุดชะงักลงอีกครั้งเนื่องจากเกิดสงคราม ต่อมาก็มีการสร้างหอต่อขึ้นอีกและสร้างเสร็จ 7 ชั้น ในปี ค.ศ.1319 แต่หอระฆังถูกสร้างเสร็จในปี ค.ศ.1372 โดยใช้เวลาสร้างทั้งหมด 177 ปี

หลังจากนั้น ในปี ค.ศ. 1990-2001 หอเอนปีซาได้รับการปรับปรุงฐานให้แข็งแรงยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้หอล้มลงมา

ชมหอเอนเมืองปิซ่า หอเอน แต่ไม่ล้ม! - 2

กาลิเลโอ กาลิเลอิ เคยใช้หอนี้ทดลองเกี่ยวกับเรื่อง แรงโน้มถ่วง ในตอนที่เขาเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยปิซา โดยใช้ลูกบอล 2 ลูกที่น้ำหนักไม่เท่ากันทิ้งลงมา เพื่อพิสูจน์ว่า ลูกบอล 2 ลูกจะตกถึงพื้นพร้อมกัน ซึ่งก็เป็นไปตามที่กาลิเลโอคาดไว้

ในปี ค.ศ.1934 เบนิโต มุสโสลินี พยายามจะทำให้หอกลับมาตั้งฉากดังเดิม โดยเทคอนกรีตลงไปที่ฐาน แต่กลับทำให้หอยิ่งเอียงมากขึ้นไปอีก กองทัพสหรัฐฯ ตัดสินใจไม่ยิงปืนใหญ่ใส่หอเอนเมืองปิซา

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1964 รัฐบาลอิตาลี พยายามหยุดการเอียงของหอเอนเมืองปิซา โดยผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ เช่น วิศวกร นักคณิตศาสตร์ และนักประวัติศาสตร์ โดยใช้เหล็กรวมกว่า 800 ตัน ค้ำไว้ไม่ให้หอล้มลงมา

ชมหอเอนเมืองปิซ่า หอเอน แต่ไม่ล้ม! - 3

ในวันที่ 7 มกราคม ค.ศ.1990 หอเอนเมืองปิซาถูกปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าชม เพื่อความปลอดภัย อีกทั้งยังขุดดินของอีกด้านหนึ่งออก เพื่อให้สมดุลยิ่งขึ้น และในวันที่ 15 ธันวาคม 2001 หอเอนเมืองปิซาถูกเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมอีกครั้ง และถูกประกาศว่าสมดุลแล้วใน 300 ปีต่อมาหลังจากเริ่มทำการปรับปรุง

Klook.com

ค.ศ.1987 หอเอนเมืองปิซา ได้ถูกประกาศให้เป็นมรดกโลก โดยเป็นส่วนหนึ่งของ Piazza Dei Miracoli หอเอนเมืองปิซายังเป็น 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูล จากวิกิพีเดีย

ประวัติประเทศอิตาลี

ชมหอเอนเมืองปิซ่า หอเอน แต่ไม่ล้ม! อิตาลี อยู่ในตอนใต้ของทวีปยุโรป และ ตอนเหนือของแอฟริกา โดยมีลักษณะเป็นคาบสมุทรยื่นออกไปในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน พื้นที่ร้อยละ 75เป็นภูเขาและที่ราบสูง ทิศเหนือติดประเทศสวิตเซอร์แลนด์และออสเตรีย ทิศใต้ติดทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและทะเลไอโอเนียน ทิศตะวันตกติดประเทศฝรั่งเศสและทะเลไทเรเนียน ทิศตะวันออกติดทะเลอาเดรียติก และอยู่ตรงข้ามกับสโลเวเนีย โครเอเชีย บอสเนีย มอนเตเนโกร และแอลเบเนีย อิตาลีมีเนื้อที่ 116,303 ตารางไมล์ หรือ 301,225 ตารางกิโลเมตร นอกจากพื้นที่ที่เป็นคาบสมุทรแล้ว อิตาลียังประกอบด้วยเกาะซาร์ดิเนียและซิซิลีด้วย พื้นที่ร้อยละ 7 เป็นพื้นที่เกษตรกรรม ร้อยละ 21 เป็นป่าและภูเขา มีสภาพภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน มีประชากร ประมาณ 58.6 ล้านคน เชื้อชาติ ส่วนใหญ่คือ อิตาเลียน และมีชนกลุ่มน้อยเชื้อชาติอื่นๆคือ เยอรมัน ฝรั่งเศส สโลเวเนีย และแอลเบเนีย เมืองหลวง คือกรุงโรม (Rome) ประชากร 2.7 ล้านคน เมืองสำคัญ โรม มิลาน เนเปิลส์ ฟลอเรนซ์ เวนิส

สภาพภูมิอากาศของประเทศอิตาลี

เมื่อเทียบกับประเทศยุโรปอื่นๆ อิตาลีจัดได้ว่าอยู่ในเขตอบอุ่น มีแสงอาทิตย์ส่องสว่าง อากาศดีแจ่มใส แต่จริงๆแล้ว ด้วยรูปทรงยาวยื่นลงไปในทะเล โดยส่วนบนติดกับเทือกเขาแอลป์ ทำให้อิตาลีมีภูมิอากาศที่หลากหลาย ทางตอนเหนืออากาศเย็น มีหิมะตกในช่วงหน้าหนาวทว่าร้อนจัดในช่วงหน้าร้อน ในขณะที่ทางใต้อากาศอบอุ่นตลอดทั้งปี โดยมีลมจากแอฟริกาพัดพาเอาความร้อนและชื้นเข้ามาในช่วงฤดูร้อน
ฤดูกาลในอิตาลีมี 4 ฤดู คือ ฤดูหนาว ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูใบไม้ร่วง

Klook.com

ภาษา

ทั่วอิตาลีจะใช้ภาษาอิตาเลียนเป็นหลัก ในเมืองท่องเที่ยวหลัก เช่น โรม มิลาน ฟลอเรนซ์ เวนิช ฯลฯ ร้านค้าต่างๆ จะพูดภาษาอังกฤษได้พอสมควร แต่ตามเมืองเล็กๆ ในชนบทนักท่องเที่ยวอาจจะประสบปัญหาได้ เพราะผู้คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจภาษาอังกฤษ

สกุลเงิน

ใช้สกุลเงินยูโร (Euro)เทียบเป็นเงินไทยได้ประมาณ 37 บาท ซึ่งขึ้นอยู่กับอัตราค่าเงินขณะที่ท่านแลก ณ วันที่ 23 ก.ค. 2563 ตรวจสอบเหรทเงิน ไปแลกเงิน ได้เลย คลิกที่นี่

เวลา

เวลาจะช้ากว่าประเทศไทยประมาณ 5 ชั่วโมง ในช่วงปลายเดือนมีนาคม-ปลายเดือนตุลาคม (Daylight Saving time)
และเวลาจะช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง ในช่วงปลายเดือนตุลาคม-ปลายเดือนมีนาคม

ระบบไฟ

ใช้ระบบไฟฟ้า 230 V, 50 Hz เหมือนประเทศไทย แต่ปลั๊กไฟมี2แบบ คือ เป็นแบบหัวกลม 3 ขาและเป็นแบบมีหัวกลมคู่ กับคลิปสำหรับกราวด์ 1 ด้าน

ยื่นขอวีซ่าผ่านศูนย์ยื่นวีซ่าประเทศอิตาลีประจำกรุงเทพ จองคิว และ ตรวจสอบเอกสารยื่นขอวีซ่าได้เลย คลิก https://visa.vfsglobal.com/tha/th/ita/

เดินทางบินตรงไปชมความงดงาม ความโรแมนติก แฟชั่น และประวัติศาสตร์ สนใจเดินทางท่องเที่ยว สอบถามคลิก http://povtravel.co.th/


ค้นหาที่พักผ่าน AGODA คลิก

Booking.com