ไปเที่ยวญี่ปุ่น Ice Dome เป็นสิ่งก่อสร้างรูปโดมที่สร้างขึ้นจากการนำบล็อคน้ำแข็งมาวางซ้อนกัน และยังมีการจัดสิ่งต่างๆ ไว้ใน Ice Dome ทำให้เราสามารถดื่มด่ำกับโลกของน้ำแข็งได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการดื่มเหล้า สนุกกับคอนเสิร์ต หรือแม้แต่พักค้างคืนใน Ice Dome ก็ยังได้
ไปเที่ยวญี่ปุ่น ภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido) คือ 1 ใน 4 เกาะหลักของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ทางเหนือสุดของญี่ปุ่น เป็นเขตการปกครองที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ขึ้นชื่อในเรื่องของอาหารทะเลที่ทั้งสดและใหม่ จุดเด่นอยู่ที่ปูขนตัวโตๆ ลิ้มรสอร่อยจากผลิตภัณฑ์จากเนย นม ในฤดูหนาวมีอากาศหนาวเย็นที่สุด มีลานสกีเป็นที่รู้จักระดับโลกเพราะมีหิมะแบบเพาเดอร์สโนว์คุณภาพดีเลิศและยังมีเทศกาลหิมะที่ยิ่งใหญ่จัดขึ้นในทุกๆ ปี และช่วงฤดูร้อนอากาศเย็นสบาย เหมาะแก่การชมทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงามยิ่งใหญ่ พร้อมมีทุ่งดอกไม้หลากหลาย เช่น ทุ่งลาเวนเดอร์ ทุ่งดอกทานตะวัน ทุ่งดอกพิงค์มอส เป็นต้น
What is Ice Dome?
การเดินทาง : การเดินทางไปที่ ภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido) มีเที่ยวบินตรงจากเมืองไทยไปลงที่สนามบินนิวชิโตเสะ (New Chitose Airport) และมีศูนย์กลางการเดินทางอยู่ที่สถานีซัปโปโร (Sapporo Station) ซึ่งมีรถไฟวิ่งเข้าสู่เมืองหลักต่างๆ อีกทั้งยังมีรถบัสสำหรับการเดินทางระหว่างเมืองอีกด้วย
Lake Shikaribetsu Kotan (Shikaoi)
หมู่บ้านในตำนานที่สร้างขึ้นจากหิมะและน้ำแข็งล้วนๆ ซึ่งจะปรากฎขึ้นแค่ 60 วันเท่านั้น
1.Ice Bar
บาร์ที่สร้างจากการก่อบล็อคน้ำแข็งซึ่งได้รับความ นิยมอย่างมาก มีการเสิร์ฟเหล้าด้วยแก้วน้ำแข็งที่ทำขึ้นด้วยมือ
2.ออนเซ็นกลางแจ้งบนน้ำแข็ง
บ่อออนเซ็นกลางแจ้งเหนือทะเลสาบน้ำแข็งนั้นมีอยู่ที่นี่ที่เดียวในโลก
3.ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว
ยามค่ำคืนในฤดูหนาวของโคตันนั้นจะสามารถเห็นดวงดาวพร่างพราวเต็มฟ้าอย่างงดงามจนน่าตื่นตะลึง
**กิจกรรมส่วนใหญ่จะจัดขึ้นยามค่ำคืนทำให้อากาศค่อนข้างหนาวเย็นเป็นอย่างมากในบางมีอุณหภูมิติดลบถึง20องศาเลยทีเดียว เพื่อที่ท่านจะได้สนุกอย่างสุดเหวี่ยง จึงขอแนะนำให้ท่านเตรียมอุปกรณ์กันหนาวไปให่้พร้อม
เป็นเกาะขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของญี่ปุ่นพร้อมด้วยงานเทศกาลตลอดฤดูกาล เป็นพื้นที่ที่อุดมไปด้วยความงดงามของธรรมชาติ
ฮอกไกโดเป็นเกาะที่อยู่ทางตอนเหนือสุดของญี่ปุ่นและถูกโอบล้อมด้วยทะเลทุกทิศทาง มีพื้นที่กว้างขวางซึ่งคิดเป็น 22% ของพื้นที่ทั้งหมดของประเทศญี่ปุ่น ด้วยความชื้นที่ต่ำทำให้ฤดูร้อนยังคงสร้างความเบิกบานได้ ในขณะที่ช่วงฤดูหนาวก็สามารถเพลิดเพลินกับกีฬาฤดูหนาวได้ นับเป็นเกาะที่ได้รับความนิยมให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวตลอดทั้งสี่ฤดูกาล
ในฮอกไกโดคุณสามารถเพลิดเพลินไปกับความงดงามของธรรมชาติได้อย่างจุใจ ไม่ว่าจะเป็นอุทยานแห่งชาติไดเซทซึซังซึ่งมีรูปทรงเป็นหลังคาของฮอกไกโด, คาบสมุทรชิเรโตโกะที่เงียบสงบ, บึงคุชิโระ เป็นถิ่นกำเนิดของสิ่งของเพื่อการดำรงชีพที่มีคุณค่าหลากหลาย เช่น รถเครนญี่ปุ่น ฯลฯ, อุทยานแห่งชาติชิโคทซึ-โทยะซึ่งเต็มไปด้วยภูเขาไฟและทะเลสาบ และชายฝั่งฉะโคทันที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ ยังมีน้ำพุร้อนจำนวนมากมาย เช่น โนโบริเบทซึ, โจซังเค และโซอุนเคียว ซึ่งคุณสามารถเพลิดเพลินไปกับการอาบน้ำแบบผ่อนคลาย ที่จะช่วยให้คุณหายจากความเมื่อยล้าจากการเดินทางได้
เทศกาลหิมะซัปโปโรและเทศกาลน้ำแข็งลอยมอมเบะทซึจะมีขึ้นในช่วงฤดูหนาว ส่วนในฤดูร้อนสามารถเพลิดเพลินไปกับเทศกาลดอกลาเวนเดอร์ฟุราโนะ เช่นเดียวกับเทศกาลท่าเรือที่จะจัดขึ้นในทุกๆ เมืองที่มีชายฝั่งทะเล เพื่ออธิษฐานขอให้สามารถจับปลาได้มากๆ และปลอดภัยในการเดินเรือ ฮอกไกโดภาคภูมิใจในเทศกาลกว่า 1,200 งานและกิจกรรมที่จัดขึ้นตลอดทั้งปี
ภูมิอากาศ
ฤดูใบไม้ผลิ : มีนาคม เมษายน พฤษภาคม
เมื่อดอกบ๊วยเบ่งบาน เป็นสัญญาณว่าฤดูหนาวกำลังจะหมดไปและฤดูใบไม้ผลิกำลังจะมาถึง หลังจากนั้นดอกซากุระก็จะเริ่มบานตามมาและจะเบ่งบานสะพรั่งสวยงามที่สุดในแถบโตเกียวระหว่างช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน ในช่วงฤดูกาลนี้ทิวทัศน์ของภูเขาทุ่งนาและสวนต่างๆจะปกคลุมไปด้วยสีชมพูสวยงามดูอ่อนหวานนุ่มนวล
Klook.comเสื้อที่ควรเตรียมไป
ถ้าไปต้นฤดูใบไม้ผลิ จะยังเป็นรอยต่อของช่วงฤดูหนาวอยู่อากาศยังหนาวสำหรับคนไทย ควรเตรียมแจ็กเก็ตและสเว็ตเตอร์กันหนาวไป เตรียมเสื้อด้านในที่ให้ความอบอุ่นไปและสวมเสื้อคลุม แจ็กเก็ตหรือคาร์ดิแกน หรือเสื้อคลุมบางตัวยาว ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่
ควรเตรียมกางเกงขายาว กางเกงขายาวแนบเนื้อตัวหนา ถุงน่องแบบหนา และถุงเท้ายาว พร้อมรองเท้าหุ้มส้น หรือรองเท้าบูทแบบหุ้มข้อ
ฤดูร้อน : มิถุนายน กรกฎาคม สิงหาคม
ฤดูร้อนของญี่ปุ่น จะเริ่มขึ้นในเดือนมิถุนายน กับ มีฝนตกร่วม 3 – 4 สัปดาห์ นี่คือเวลาที่สำคัญสำหรับเกษตรกรสำหรับการปลูกข้าว และหลังจากเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไปอากาศจะชื้นและร้อนขึ้นอย่างมาก ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากจึงนิยมไปเที่ยวทะเลเพื่อว่ายน้ำ และพักผ่อนตามบ้านพักตากอากาศในภูเขาที่มีอากาศเย็นสบาย ฤดูร้อนยังเป็นช่วงที่มีงานเทศกาลและมีการจัดกิจกรรมที่น่าสนใจขึ้นมากมายทั่วประเทศ
เสื้อที่ควรเตรียมไป
เสื้อผ้าแบบเมืองร้อน เสื้อแขนกุดพร้อมเสื้อทับด้านนอก เสื้อยืดแขนสั้น ชุดเดรส กางเกงหรือกระโปรงสั้น กางเกงขายาว ถุงเท้าแบบสั้น รองเท้าหุ้มส้นธรรมดาหรือ รองเท้าสาน โลชั่นกันแดด ชุดว่ายน้ำ แว่นตากันแดด หมวกสำหรับกันแดด แต่ควรให้นำแจ็กเก็ตหรือเสื้อคลุมอย่างบางไปด้วย สำหรับถ้าอากาศเย็นในช่วงกลางคืน และไม่ควรลืมผ้าเช็ดหน้า ผ้าฝ้าย หรือผ้าขนหนูผืนเล็กๆ สำหรับเช็ดเหงื่อ
ฤดูใบไม้ร่วง : กันยายน ตุลาคม พฤศจิกายน
ฤดูใบไม้ร่วง จะนำความสดชื่นมาพร้อมกับสายลมที่พัดเบาๆและอุณหภูมิที่เย็นสบายหลังจากความร้อนและชื้นของฤดูร้อนหมดไป ป่าทั้งผืนจะถูกย้อมด้วยสีสันของฤดูใบไม้ร่วงที่สวยงาม ดอกเก๊กฮวยที่บานสะพรั่งงดงามร่ายมนต์ให้นักท่องเที่ยวต้องเข้ามาเยี่ยมเยือนเพื่อชมตามสวนสาธารณะและสวนดอกไม้ต่างๆ ฤดูใบไม้ร่วงยังเป็นฤดูกาลสำหรับการจัดนิทรรศการมากมายในญี่ปุ่น รวมถึงการแสดงดนตรีและการแข่งขันกีฬาต่างๆ
เสื้อที่ควรเตรียมไป
แม้อากาศจะไม่หนาว เท่าฤดูหนาวแต่จะมีลมเย็นๆพัดตลอดทั้งวัน ควรเตรียมเสื้อคลุมแขนยาวสำหรับกันหนาวเพื่อสามารถถอดเข้า-ออกได้ในช่วงที่ออกนอกสถานที่ เสื้อผ้าที่ควรนำไป อาทิเช่น เสื้อยืดแขนยาว เสื้อแขนยาว เสื้อคอเต่าแขนยาว เสื้อคาร์ดิแกน เสื้อคลุม เสื้อแจ็กเก็ต สเว็ตเตอร์กันหนาว ผ้าพันคอแบบหนา กางเกงขายาว กระโปรงยาว กางเกงเล็กกิ้งตัวหนา ถุงน่องแบบหนา ถุงเท้า พร้อมรองเท้าหุ้มส้น หรือรองเท้าบู๊ท
ฤดูหนาว : ธันวาคม มกราคม กุมภาพันธ์
อุณหภูมิในฤดูหนาว ของที่ราบตลอดชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกนั้นมักจะไม่หนาวจัดจนต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส อากาศออกจะค่อนข้างแห้งและแจ่มใส ตอนกลางและตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่นเป็นภูมิภาคที่มีชื่อเสียงเรื่องกีฬาฤดูหนาวอย่างมาก ส่วนทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่นนั้นอากาศจะเย็นสบายและไม่หนาวจัดเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น
เสื้อที่ควรเตรียมไป
ชุดกันหนาวไปให้พร้อม เสื้อและกางเกงแนบเนื้อด้านใน สำหรับให้ความอบอุ่นกับร่างกาย จำเป็นต้องมีเสื้อคลุมโอเวอร์โค๊ต ชุดผ้าขนสัตว์และแจ็คเก็ต ชนิดหนาเป็นพิเศษ ถ้าเป็นแบบกันน้ำได้ก็ยิ่งดี ผ้าพันคอแบบหนา ถุงมือ หมวกไหมพรมแบบกันหนาวได้ ถ้าหนาวมากอาจต้องมีที่ปิดหู ส่วนถุงเท้าให้ใส่แบบหนาๆ รองเท้าหุ้มข้อหรือรองเท้าบูทที่กันความหนาวเย็นและหิมะได้ ควรสวมใส่เสื้อผ้าให้อบอุ่นอยู่เสมอ
เงินตรา
สกุลเงินและการแลกเปลี่ยนเงินตรา
ไปเที่ยวญี่ปุ่น สกุลเงินประเทศญี่ปุ่น เขียนเป็นภาษาญี่ปุ่น คือ “円” โดยจะมีสัญลักษณ์เป็น ” “¥” ซึ่งมีการเขียนตัวสะกดเป็น “Yen” หรือ “JPY” ในตัวอักษรต่างประเทศ
ฐานภาษีผู้บริโภค ในประเทศญี่ปุ่นอยู่ที่ 8% เนื่องจากราคาสินค้าที่แสดงไว้จะเป็นราคารวมภาษีหรือไม่แล้วแต่ร้านค้า กรุณาถามพนักงานว่าสินค้านั้นได้รวมภาษีไว้ด้วยหรือไม่ เพื่อที่จะได้ทราบราคาที่แน่นอนก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า
ไม่มีการจำกัดจำนวนเงิน ที่จะนำเข้าหรือนำออกจากประเทศญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็นเงินสกุลใด อย่างไรก็ตาม หากมีการนำสกุลเงินใดๆ เช็ค ตราสาร หรือเงินในรูปแบบอื่นๆเข้าหรือออกจากประเทศญี่ปุ่นมูลค่ามากกว่า 1,000,000 เยนจะต้องทำการแจ้งต่อกรมศุลกากรให้เรียบร้อย
หน่วยสกุลเงิน ญี่ปุ่นคือเยน เหรียญที่มีใช้อยู่คือเหรียญ 1, 5, 10, 50, 100 และ 500 เยน
และธนบัตรที่มีใช้อยู่คือธนบัตรมูลค่า 1,000, 2,000, 5,000 และ 10,000 เยน
คุณสามารถ ซื้อเงินเยนได้ที่ธนาคารรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และ ร้านรับแลกเปลี่ยนเงินตราที่ได้รับอนุญาตทั่วไป สำหรับเคาน์เตอร์แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ในสนามบินระหว่างประเทศนั้นมักจะเปิดในเวลาทำการปกติ และอัตราแลกเปลี่ยน จะมีความผันผวนในแต่ละวันแปรผันตามค่าของตลาดเงิน
บัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรเติมเงิน
บัตรเครดิต บัตรเดบิต และบัตรเติมเงิน ของบริษัทระดับสากล เป็นที่ยอมรับในวงกว้างของภาคธุรกิจ แต่บางร้านค้าอาจจะไม่ได้ติดป้ายแสดงสัญลักษณ์ว่ารับบัตร ให้สอบถามพนักงานขายโดยตรงว่ารับบัตรของคุณหรือไม่ คุณสามารถใช้บัตรเหล่านี้ชำระค่าโดยสาร ของนาริตะเอ็กซ์เพรส (JR) และชินคันเซ็น (JR) ได้ แต่ส่วนใหญ่การเดินทางด้วยรถไฟ หรือรถไฟใต้ดินในระยะทางสั้นๆจะไม่สามารถใช้บัตรชำระค่าโดยสารได้ นอกจากนี้ คุณสามารถถอนเงินสดได้ที่ตู้ ATM ของ Japan Post Bank (ธนาคารของไปรษณีย์ญี่ปุ่น) และ Seven Bank (ธนาคารเซเว่น)
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก JNTO
เข้าชมโปรแกรมทัวร์ฮอกไกโด เพียง คลิกที่นี่
Booking.com