เที่ยวเวียดนาม ยามค่ำคืนเมืองฮอยอัน ความบันเทิงของฮอยอันก็เริ่มขึ้น ในแม่น้ำจะเต็มไปด้วยเรือน้ำเที่ยวและกระทงเทียนที่ลอยสว่างสไสว ริมสองฝั่งแม่น้ำจะสุกสว่างไปด้วยโคมกระดาษ เดิน Night Market ที่มีของอร่อยหน้าตาแปลกๆ บอกได้เลยว่าเพื่อนๆคนไหนที่ชอบเดินชอปแบบชิลๆ ที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ถูกใจเพื่อนๆอย่างแน่นอนครับ
เที่ยวเวียดนาม อย่างที่รู้ๆกันครับ คนเวียดนามนิยมใช้จักรยานยนต์ในการเดินทาง
ณ ตลาดฮอยอัน แห่งนี้จะเห็นแสงไฟตามริมน้ำประดับด้วยโคมกระดาษรายเรียงกันอย่างสวยตาม เมื่อสะท้อนกับผิวน้ำแล้วทำให้สวยยิ่งขึ้นไปอีก ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระทึก ยังสามารถเช่าเรือพายนั่งบอนเรือชิลๆ ลมคลอเย็นๆ ฟินสุดๆไปเลยครับ
Klook.comช่วงนี้ถือว่า นักน่องเที่ยวไม่เยอะมาก เดินประปรายครับ อากาศดีเย็นสบาย
ตามทางเดินก็จะขายของงานฝีมือ ของฝากต่างๆ ถ้าเปรียบเหมือนบ้านเราก็เหมือนกับ ถนนคนเดินท่าแพ เชียงใหม่ครับ
ครั้งหนีหมีพอยท์เอารูปมาฝากเล็กๆน้อยๆนะครับ รอชมรีวิวเต็มๆได้ เร็วๆนี้ครับ
ฮานอย เป็นเมืองหลวงของประเทศ มีพรมแดนติดกับประเทศจีน ทางทิศเหนือ ประเทศลาว และประเทศกัมพูชาทางทิศตะวันตก และอ่าวตังเกี๋ย ทะเลจีนใต้ ทางทิศตะวันออกและใต้ หรือในภาษาเวียดนาม เรียกเฉพาะทะเลทางทิศตะวันออกว่า ทะเลตะวันออก (เวียดนาม: Biển Đông, เบี๋ยน ดง) เวียดนามมีประชากรมากกว่า 89 ล้านคน ถือเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 13 ของโลก
เมืองสำคัญทางเศรษฐกิจ
1. กรุงโฮจิมินห์ หรือชื่อเดิม ไซ่ง่อน เป็นเมืองซึ่งอยู่ทางตอนใต้ โดยเป็นศูนย์กลางธุรกิจ ปัจจุบันเป็นเมืองท่าและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ตั้งอยู่บนแม่น้ำไซ่ง่อน มีพลเมืองประมาณ 5.8 ล้านคน
2. ไฮฟอง เป็นเมืองท่าที่สำคัญที่สุดของภาคเหนือและใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ โดยมีพลเมืองประมาณ 1.8 ล้านคน สินค้าที่จะเข้าสู่ฮานอยจะผ่านจากไฮฟอง
3. ดานัง เมืองท่าที่อยู่ตอนกลางของประเทศ มีพลเมือง 1 ล้านคน
วัฒนธรรม
เวียตนามมีการผสมผสานด้านวัฒนธรรม จากหลายชนชาติ เริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 432 เวียตนามได้ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลจากจักรพรรดิจีนนานกว่าพันปี ดังนั้น สิ่งก่อสร้าง อาหารการกิน จะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับวัฒนธรรมของจีนมาก และยังมีความหลากหลายของผู้คนของชาวเขาหลากหลายชนเผ่าทางภาคเหนือของเวียตนาม และเมื่อสมัยที่ฝรั่งเศสเข้ามาปกครอง เวียตนามก็ได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมฝรั่งเศสด้วย ได้แก่ ตึกที่อยู่อาศัยที่ดูทันสมัย เป็นตึกสีเหลืองสไตล์โคโลเนียลที่มีให้พบเห็นมากมาย ดังนั้นวัฒนธรรมต่างๆ ของเวียตนามจึงมีการผสมผสานกันเป็นอย่างมาก ทั้งด้านที่อยู่อาศัย เทศกาล อาหาร เป็นต้น
เทศกาลเต็ด (Tet)
โดยปกติแล้ว ชาวเวียตนามจะเฉลิมฉลองเทศกาลต่างๆ อย่างน้อย 3-7 วัน ติดต่อกัน โดยมีเทศกาลทางศาสนาที่สำคัญที่สุด คือ “เต็ดเหวียนดาน” (Tet Nguyen Dan) มีความหมายว่าเทศกาลแห่งรุ่งอรุณแรกของปี ที่ชาวบ้านนิยมเรียกกันสั้นๆ ว่า เทศกาลเต็ด เทสกาลจะเริ่มต้นขึ้น 1 สัปดาห์ก่อนจะมีวันขึ้นปีใหม่ตามจันทรคติ คือ ระหว่างปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ในวันขึ้น 15 ค่ำ ของวันที่ดวงอาทิตย์อยู่ไกลเส้นศูนย์สูตรมากที่สุดในฤดูหนาว กับวันที่กลางวันยาวเท่ากับกลางคืน ในฤดูใบไม้ผลิ เทศกาลนี้เป็นการเฉลิมฉลองในภาพรวมทั้งหมดของความเชื่อในเทพเจ้า ลัทธิเต๋า ขงจื๊อ และศาสนาพุทธ รวมถึงการเคารพบรรพบุรุษ
เทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วง
สำหรับเทศกาลฤดูใบไม้ร่วง นับตามจันทรคติตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี ชาวบ้านจัดประกวด “ขนมบันตรังทู” หรือ ขนมเปี๊ยะโก๋ญวน ทีมีรูปร่างกลม มีไส้ถั่วและไส้ผลไม้ พร้อมทั้งจัดขบวนแห่เชิดมังกร เพื่อแสดงความเคารพต่อพระจันทร์ ซึ่งในบางหมู่บ้านอาจประดับโคมไฟพร้อมทั้งจัดงานขับร้องเพลงพื้นบ้าน
ศาสนา
เวียดนามไม่มีศาสนาประจำชาติ โดยรัฐธรรมนูญให้อิสระในการเลือกนับถือศาสนา โดยปัจจุบันประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ นับถือศาสนาคริสต์ ประมาณ 7 เปอร์เซ็นต์ และที่เหลือนับถือศาสนาอื่นๆ อีก 3 เปอร์เซ็นต์
ภาษา
ภาษาทางการคือ ภาษาเวียตนาม ภาษาที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารทางธุรกิจ คือ ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส และจีน
อากาศ
กรุงฮานอย และบริเวณตอนเหนือ ของเวียดนามมีอากาศค่อนข้างหนาวเย็น และชื้นในช่วงเดือนพฤศจิกายน-มีนาคม ดังนั้น ในช่วงเวลาดังกล่าวควรเตรียมเสื้อกันหนาวไปด้วย
ช่วงเดือนมิถุนายน-ตุลาคม อากาศค่อนข้างร้อน
สกุลเงิน และการใช้เงิน(บัตรเครดิต)
สกุลเงินของเวียตนามคือ ดอง อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 420-460 ดอง ต่อ 1 บาทและ 1 ดอลล่า เท่ากับ 15,900 ด่อง ควรมีเงินด่องติดตัวไว้บ้างเล็กน้อย เงินสกุลดอลล่า สามารถใช้ได้ทั่วประเทศ ส่วนเงินบาทสามารถใช้ได้ตามร้านค้าทั่วไป ได้เลย การใช้บัตรเครดิตไม่เป็นที่นิยมในเวียดนาม หรือสามารถใช้ได้เฉพาะร้านค้าหรือโรงแรมที่ใหญ่ๆเท่านั้น
ระบบไฟฟ้า
220 โวลต์ ส่วนใหญ่เป็นปลั๊กสองขากลม
เวลา
เวลาที่ประเทศเวียดนาม เท่ากับเวลาในประเทศไทย ( ไม่ต้องตั้งเวลาใหม่ )
อาหารและน้ำดื่ม
กรุงฮานอยมีตลาดสดหลายแห่ง ซึ่งสามารถหาซื้อเนื้อสัตว์ อาหารทะเล ผักและผลไม้สดได้ทุกวัน ในลักษณะใกล้เคียงกับตลาดสดในประเทศไทย มี Supermaket และ”mini mart” อยู่หลายแห่งคล้ายกับที่กรุงเทพฯ ซึ่งสามารถหาซื้อเครื่องกระป๋องและผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศ เครื่องปรุงอาหารไทย ส่วนใหญ่สามารถหาได้ในกรุงฮานอย หรือประยุกต์จากผลิตภัณฑ์ที่นำเข้ามาจากประเทศอื่น (สิงคโปร์ จีน เกาหลี และญี่ปุ่น )
การบริโภคอาหาร และ น้ำดื่มในเวียดนามต้องระมัดระวัง ควรซื้อน้ำดื่มที่บรรจุเป็นขวดหรือกรองน้ำแล้วต้มก่อนจะดื่ม การบริโภคอาหาร ประเภทผักผลไม้ต้องล้างให้สะอาดก่อน
ลักษณะของธงชาติเวียดนาม นั้นเป็นธงสี่เหลี่ยมผืนผ้าพื้น สีแดง กว้าง 2 ส่วน ยาว 3 ส่วน ตรงกลางมีรูปดาวห้าแฉกสีเหลืองทอง สีแดง นั้นหมายถึง การต่อสู้เพื่อกู้เอกราชของชาวเวียดนาม สีเหลืองคือสีของชาวเวียดนาม ส่วนดาวห้าแฉกนั้น เป็นที่เข้าใจกันทั่วไปว่าหมายถึงชนชั้นต่างๆ ในสังคมเวียดนาม คือ นักปราชญ์ ชาวนา ช่างฝีมือ พ่อค้า และทหาร อย่างไรก็ตาม ภายหลังการรวมชาติเวียดนาม ในปี พ.ศ. 2519 ความหมายในธงได้มีการอธิบายใหม่ในทางการเมืองว่า สีแดง หมายถึง การปฏิวัติโดยชนชั้นกรรมาชีพ และ ดาวสีทองหมายถึงการชี้นำ ของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม
ภูมิอากาศ : เป็นแบบมรสุมเขตร้อน ชายฝั่งทะเลด้านตะวันออก เปิดโล่งรับลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดผ่านทะเลจีนใต้ ทำให้มีโอกาสรับลมมรสุมและพายุหมุนเขตร้อน จึงมีฝนตกชุกในฤดูหนาวสามารถปลูกข้าวได้ปีละ 2 ครั้ง เป็นประเทศที่มีความชื้นประมาณ 84 % ตลอดปี
ศาสนา : ส่วนใหญ่ชาวเวียดนามนับถือศาสนาพุทธ นิกายมหายาน สูงถึงร้อยละ 70 ของจำนวนประชากรร้อยละ 15 นับถือศาสนาคริสต์ ที่เหลือนับถือลัทธิขงจื้อ มุสลิม
เข้าชมโปรแกรมทัวร์เวียดนาม คลิกได้ที่นี่
Klook.com