Point of view
วัน-เวลาทำการ : เราจะติดต่อกลับในเวลาทำการ : จันทร์ - ศุกร์ 09.00 - 17.00
(หยุดวันเสาร์ - อาทิตย์ และ วันหยุดตามปฏิทิน)
ติดต่อข่าวสารโปรโมชั่นทัวร์
qrcode
@povtravel

หอนาฬิกาบิ๊กเบน (Big Ben)

กรกฎาคม 21, 2020 | by Point of view

หอนาฬิกาบิ๊กเบน (Big Ben) เป็นสถานที่ของการจุดประกายของประชาธิปไตย สัญลักษณ์ของกรุงลอนดอน มีอายุครบ 160 ปีแล้ว บิ๊กเบน ซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “มหาระฆังแห่งหอคอยเอลิซาเบธ” (Great Bell of the Elizabeth Tower) เริ่มตีเสียงก้องกังวานให้ชาวกรุงลอนดอนได้ยินเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 ก.ค. 1859 เชื่อกันว่าชื่อ “บิ๊กเบน” ถูกเรียกกันเล่น ๆ ตามชื่อของเซอร์เบนจามิน ฮอลล์ ผู้ควบคุมการติดตั้งมหาระฆังในขณะนั้น และ หอนาฬิกาบิ๊กเบน (Big Ben) นี้ไม่ได้ตั้งตรง แต่มันเอียงประมาณ 0.04 องศา ซึ่งหากมองโครงสร้างภายนอกดีๆ ก็จะสังเกตเห็นว่าหอคอยนี้จะเอียง

หอนาฬิกาบิ๊กเบน (Big Ben) - 1

หอนาฬิกาบิ๊กเบน เป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก

หอนาฬิกา บิ๊ก เบน ถูกขนมายังลอนดอนด้วยพิธีการยิ่งใหญ่ มันถูกขนด้วยเรือก่อนจะใช้รถเทียมม้าขาวถึง 16 ตัว ขนข้ามสะพานเวสต์มินสเตอร์ อย่างไรก็ตาม หอนาฬิกา บิ๊ก เบน ใบแรกเกิดรอยร้าวระหว่างการทดสอบในเดือนตุลาคม 2400 จึงต้องมีการหล่อระฆังใบที่ 2 มาเปลี่ยนด้วยฝีมือของ จอร์จ เมียร์ส จากโรงหล่อ ไวท์ชาเปล ในกรุงลอนดอน เมื่อเดือนเมษายน 2401 โดยผสมชิ้นส่วนของระฆังใบแรกเข้าไปด้วย และ ระฆังบิ๊ก เบน ในปัจจุบันมีน้ำหนักถึง 13.7 ตัน สูงถึง 2.2 เมตร และ มีเส้นผ่านศูนย์กลางยาว 2.7 เมตร ส่วนที่ลูกตุ้มระฆังมีน้ำหนักถึง 200 กิโลกรัม เวลาเคาะจะทำเสียงดนตรีโน้ต อี (E) และบริเวณที่ใต้บิ๊ก เบนยังมีระฆังขนาดเล็กอีก 4 ใบ ซึ่งลั่นทุก 15 นาที โดยจะทำเสียงตัวโน้ต จี ชาร์ป, เอฟ ชาร์ป, อี และ บี ที่หน้าปัดนาฬิกาแต่ละด้านของ หอคอยเอลิซาเบธ ได้รับแสงสว่างจากหลอดไฟประหยัดพลังงาน 28 ดวง ซึ่งมีอายุการใช้งานดวงละประมาณ 60,000 ชั่วโมง

หอนาฬิกาบิ๊กเบน (Big Ben) - 2

หอนาฬิกาบิ๊กเบน (Big Ben) มีความสูง 96 เมตร หรือ  318 ฟุต และประกอบไปด้วยชั้นต่างๆ อีก 11 ชั้น เป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก ตั้งอยู่ใจกลาง ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

นอกจากหอนาฬิกา แห่งนี้จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่คนทั่วโลกรู้จัก และเป็นหนึ่งในอาคารที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุดในสหราชอาณาจักรแล้ว เสียงระฆังที่ก้องกังวานของบิ๊กเบน ยังถูกนำมาเปิดก่อนเข้ารายการข่าวของสถานีวิทยุบีบีซีอีกด้วย หอนาฬิกาบิ๊กเบน ได้ลั่นบอกเวลาอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อ 11 กรกฎาคมปี 2402 แต่ก็ใช้งานได้ไม่นานเมื่อได้เกิดรอยร้าวขึ้นมาในเดือนกันยายน ทำให้มันต้องเงียบเสียงไปนาน 4 ปี และมีการแก้ปัญหาโดยหมุนระฆังไปประมาณ 90 องศาตามเข็มนาฬิกาเพื่อเปลี่ยนจุดเคาะ และใช้ลูกตุ้มเคาะระฆังที่มีขนาดเล็กลง

Klook.com

ปัจจุบัน หอนาฬิกาบิ๊กเบน อยู่ระหว่างการบูรณะครั้งใหญ่ที่สุดนับแต่เคยมีมา ซึ่งดำเนินมาตั้งแต่ปี 2017 และมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2021 โดยใช้งบประมาณเกือบ 40 ล้านปอนด์ (ราว 1,520 ล้านบาท)

ขอบคุณข้อมูล จาก : บีบีซี

หอนาฬิกาบิ๊กเบน (Big Ben) - 3

นอกจากสถานที่อันลือชื่ออย่างหอนาฬิกาบิ๊กเบนและรัฐสภาของประเทศอังกฤษ จากจัตุรัสรัฐสภา ถึงย่านไวท์ฮอลล์เรียงราย ไปด้วยอาคารรัฐบาลหลายแห่งที่มีชื่อเป็นชื่อเดียวกันกับรัฐบาลอังกฤษจึงนับว่าเป็นอีกทริปหนึ่ง ที่ไม่สามารถจะพลาดไปได้อย่างแน่นอน

ในปัจจุบันภายในหอนาฬิกานี้ ไม่เปิดให้สาธารณชนเข้าชม เว้นแต่สำหรับผู้ที่อาศัยในประเทศอังกฤษ จะต้องทำเรื่องขอเข้าชมผ่านสมาชิกรัฐสภาอังกฤษ ประจำท้องถิ่นของตน ถ้าเป็นเด็กต้องมีอายุเกิน 11 ปี จึงจะเข้าชมหอได้ สำหรับชาวต่างประเทศนั้นไม่อนุญาตให้ขึ้นไป  ทั้งนี้ผู้ชมต้องเดินบันได 334 ขั้นขึ้นไปเพราะไม่มีลิฟต์

การเดินทาง :

หอนาฬิกาบิกเบนมาง่ายๆมากเลย ด้วยรถไฟฟ้า Underground สถานี Westminster เดินออกมาข้ามถนนก็ถึง และ จุดยอดฮิตที่ต้องมาถ่ายรูปคือ หอนาฬิกาบิ็กเบน และ อาคารรัฐสภา ริมแม่น้ำเทมส์ โดยถ่ายจากบนสะพาน Westminster

ฤดูกาลและสภาพอากาศของอังกฤษ

สำหรับฤดูกาลโดยทั่วไปของอังกฤษ สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ฤดู แถมยังขึ้นชื่อว่าเป็นเมือง 4 ฤดูในหนึ่งวันอีกด้วย นั่นก็เพราะในบางวันที่ลอนดอนจะมีทั้งแดดออก ฝนตก หนาวเย็นและอบอุ่นสลับกันไป ซึ่งหากใครที่ภูมิต้านทานไม่ดีหรือเป็นโรคภูมิแพ้อากาศก็อาจเจ็บป่วยได้ง่ายกันเลยทีเดียว โดยสามารถแบ่งฤดูกาลได้ดังตามด้านล่างนี้ ซึ่งเราจะมีบอกอุณภูมิโดยเฉลี่ยของทั้งเดือนนั้นเอาไว้ด้วย ซึ่งอากาศในช่วงกลางวันจะอบอุ่นกว่าค่าเฉลี่ยได้ 5-10 องศา และอากาศในตอนกลางคืนจะหนาวเย็นกว่าได้ประมาณ 5 องศา

1.ฤดูใบไม้ผลิ เป็นฤดูที่อากาศมีการเปลี่ยนแปลงได้บ่อยที่สุด คืออาจมีทั้งอากาศอบอุ่น แสงแดดจัด หนาวเย็นและฝนตกสลับกันไป หรือสภาพอากาศเหล่านี้อาจเกิดขึ้นในวันเดียวกันเลยก็ได้ ซึ่งทั้งนี้ช่วงฤดูใบไม้ผลิก็จะอยู่ในเดือนมีนาคม-พฤษภาคม นั่นเอง

  • เดือนมีนาคม มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 9 องศาเซลเซียส
  • เดือนเมษายน มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 11 องศาเซลเซียส
  • เดือนพฤษภาคม มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 14 องศาเซลเซียส

2. ฤดูร้อน สภาพอากาศจะมีความอบอุ่นเป็นส่วนใหญ่ และมีแสงแดดส่องตลอดวัน แต่หากเทียบกับบ้านเราแล้ว ฤดูร้อนของลอนดอนก็เหมือนกับฤดูหนาวของเมืองไทยเรานั่นเอง โดยช่วงฤดูร้อนก็จะอยู่ในเดือนมิถุนายน-สิงหาคม และยังเป็นช่วงที่กลางวันยาวนานมาก บางช่วง 2 ทุ่มกว่าแล้วเพิ่งจะเริ่มมืด โดย

  • เดือนมิถุนายน มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 16 องศาเซลเซียส
  • เดือนกรกฎาคม มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 19 องศาเซลเซียส
  • เดือนสิงหาคม มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 19 องศาเซลเซียส

3. ฤดูใบไม้ร่วง เป็นฤดูที่ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีและร่วงหล่นลงมามากกว่าปกติ แต่ก็ให้ความสวยงามและบรรยากาศที่น่าเที่ยวไม่น้อยเลยทีเดียว โดยช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะอยู่ระหว่างเดือนกันยายน-พฤศจิกายน โดย

  • เดือนกันยายน มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 17 องศาเซลเซียส
  • เดือนตุลาคม มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 13 องศาเซลเซียส
  • เดือนพฤศจิกายน มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 10 องศาเซลเซียส
Klook.com

4. ฤดูหนาว เป็นฤดูที่มีหิมะตก เหมาะกับการท่องเที่ยวสำหรับคนที่อยากสัมผัสกับหิมะเป็นที่สุด แต่จะมีหิมะตกบางพื้นที่เท่านั้น และกลางคืนจะยาวนานกว่ากลางวันอีกด้วย หรือกล่าวง่ายๆก็คือช่วงนี้จะมืดเร็วกว่าปกตินั่นเอง บางช่วงยังไม่ 5 โมงเย็นก็จะเริ่มสลัวๆแล้ว ซึ่งช่วงฤดูหนาวก็จะอยู่ระหว่างเดือนธันวาคม-กุมาพันธ์ โดย

  • เดือนธันวาคม มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 7 องศาเซลเซียส
  • เดือนมกราคม มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 7 องศาเซลเซียส
  • เดือนกุมภาพันธ์ มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 7 องศาเซลเซียส

ถ้าถามว่าช่วงไหนเหมาะกับการไปเที่ยวอังกฤษที่สุด เพราะประเทศอังกฤษมีสภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดปี จึงสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้ทุกช่วงเวลาไม่ว่าเดือนไหนหรือฤดูกาลไหนก็ตาม แต่หากคุณอยากไปท่องเที่ยวท่ามกลางหิมะตกก็จะต้องไปในช่วงฤดูหนาวนั่นเอง อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะไปเที่ยวช่วงไหน ก็อย่าลืมเช็คสภาพอากาศและเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการท่องเที่ยวกันด้วย ที่สำคัญมีบินตรงด้วยนะครับ จากไทย

อัตราแลกเปลี่ยน

ค่าเงินโดยประมาณ 1 ปอนด์สเตอร์ลิง เท่ากับ 40 บาทไทย , 100 ปอนด์สเตอร์ลิง เท่ากับ 4,000 บาทไทย ตรวจสอบเหรทเงินพร้อมและไปแลกเงินได้เลยคลิก https://www.superrich1965.com/home.php

สนใจเดินทางไปทั่วโลกกับหมีพอยท์ได้เลย คลิกที่นี่ http://povtravel.co.th/


ค้นหาที่พักใน ลอนดอน

Booking.com