อาบูดาบี (Abu Dhabi) ถือเป็น 1 ใน 7 รัฐของประเทศที่ร่ำรวยที่สุดอีกแห่งในโลกอย่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และยังมีสถานะเป็นเมืองหลวงของประเทศ ความทันสมัยของอาบูดาบีเชื่อมร้อยอยู่กับความเคร่งในศาสนาและความรักศรัทธาในพระมหากษัตริย์ การได้ชมเมืองสวยๆ พระราชวังงดงาม และมัสยิดที่ยิ่งใหญ่จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะเกิดขึ้นในแผ่นดินอาบูดาบี
Sheikh Zayed Grand Mosque
Sheikh Zayed Grand Mosque หนึ่งในมัสยิดที่สวยที่สุดในโลก ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 10 ปี โดยช่างฝีมือจากทั่วโลกมาร่วมสรรสร้างสถาปัตยกรรมอันงดงามแห่งนี้ วัสดุที่ใช้ในการสร้างมัสยิด มีตั้งแต่หินอ่อน เซรามิก คริสตัล และทองคำ ถือเป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานความทันสมัยให้เข้ากับวัฒนธรรมของศาสนาอิสลามได้อย่างลงตัว
ไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดคือ ต้องมาชมโคมไฟแชนเดอร์เลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มูลค่าประมาณ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ทำจากทองคำและทองแดง นำเข้าจากประเทศเยอรมนี และพรมที่ทอเป็นผืนเดียวโดยไม่มีรอยต่อ ผืนใหญ่ที่สุดในโลก
Louvre Abu Dhabi
Louvre Abu Dhabi ลูฟวร์ อาบูดาบี บรรจุชิ้นงานทางศิลปะกว่า 600 ชิ้น ทั้งยังนำผลงานบางส่วนจากลูฟวร์ในฝรั่งเศสอีกกว่า 300 ชิ้นมาจัดแสดงอีกด้วย มีผลงานของศิลปินชื่อก้องโลกมากมายทั้ง แวน โก๊ะ, ปิกัสโซ ศิลปินชาวอเมริกันอย่าง เจมส์ แอบบ็อตต์ แม็คนีลล์ วิสต์เลอร์ รวมไปถึงผลงานของศิลปินจีนอย่าง อ้ายเว่ยเว่ย อีกด้วย
ภายใต้อาคารรูปทรงโดมจากการออกแบบของสถาปนิกชาวฝรั่งเศส ฌอง นูแวล (Jean Nouvel) นั้นได้แรงบันดาลใจมาจากเมืองโบราณของชาวอาหรับอย่างเมดีนา ในประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นที่กล่าวขานของนักวิจารณ์ว่าเป็นอาคารรูปโดมที่สวยงามและชาญฉลาดในเรื่องของการเปิดรับแสงธรรมชาติ ทั้งยังช่วยลดความร้อนภายในได้อีกด้วย
Al Jahili Fort
อัล จาฮิลิคือป้อมโบราณที่มีความเก่าแก่และมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ ที่ว่าเก่าแก่ก็เพราะป้อมหลังนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 1891 เพื่อจุดประสงค์ให้เป็นป้อมปราการและพระราชวังฤดูร้อน สรุปก็คือเป็นการสร้างพระราชวังโดยมีปราการแข็งแกร่งล้อมรอบ อีกทั้งเหตุผลหนึ่งที่เลือกทำเลนี้เป็นที่ตั้งพระราชวังก็เนื่องจากเป็นจุดที่มีดินน้ำอุดมสมบูรณ์ และก็ได้กลายเป็นพื้นที่ลี้ภัยให้กับประชาชนในอดีตยามที่บ้านเมืองประสบความยากลำบาก
Aldar HQ
Aldar HQ Building อาคารทางกลมแห่งแรกในภูมิภาคตะวันออกกลาง
Klook.comFerrari World Abu Dhabi
“เฟอร์รารี่ เวิลด์ อาบูดาบี” (Ferrari World Abu Dhabi) ที่เปิดตัวขึ้นในปี 2010 ยิ่งใหญ่ด้วยความกว้างถึง 86,000 ตารางเมตร พร้อมเครื่องเล่นชั้นนำอีกกว่า 20 ชิ้น โดยมีไฮไลท์ชิ้นสำคัญอยู่ที่รถไฟเหาะที่ทำความเร็วได้มากที่สุดในโลกอย่าง “Formula Rossa” ซึ่งแล่นด้วยความเร็วสูงถึง 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ยังมีเครื่องเล่นซิมูเลชั่นอีกหลายชิ้นที่ต้องลองให้ได้ เช่น Speed of Magic เครื่องเล่น 4-D และเฟอร์รารี่ เวิลด์ อาบูดาบียังมีแกลลอรี่ของรถเฟอร์รารี่ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอยู่ด้วย ใช้เป็นสถานที่จัดแสดงรถเฟอร์รารี่ตั้งแต่รุ่นปี 1947 จนถึงรุ่นปัจจุบัน ตัวอาคารจะถูกออกแบบให้มีหลังคาสีแดงขนาดใหญ่พร้อมประทับโลโก้แบรนด์เฟอร์รารี่อย่างโดดเด่นและเห็นได้ชัดเจนที่สุดแม้คุณกำลังนั่งอยู่บนเครื่องบินและมองลงมายังเฟอร์รารี่ เวิลด์ อาบูดาบีแห่งนี้
CLYMB™
CLYMB สถานที่ท่องเที่ยวในร่มแห่งใหม่ที่ใช้ทุนสร้างถึง 100 ล้านดอลลาร์ มาพร้อมห้อง Flight Chamber ที่กว้างที่สุดในโลก และหน้าผาจำลองในร่มที่สูงที่สุดในโลก Flight Chamber จะมอบประสบการณ์การเหินเวหาเสมือนจริงในห้องที่มีความกว้างถึง 9.75 เมตร (32 ฟุต) ซึ่งนับว่ากว้างที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมา ส่วนหน้าผาจำลองในร่มที่สูงที่สุดในโลกจะมีทั้งหมด 4 ผา และมีระดับความยากง่ายแตกต่างกันไปสำหรับนักปีนเขาทุกระดับ ตั้งแต่เริ่มต้น ปานกลาง ไปจนถึงมืออาชีพ โดยจุดที่มีความสูงที่สุดจะอยู่ที่ 43 เมตรเหนือพื้นดิน
Sheikh Zayed Bridge
สะพานแขวนขนาดใหญ่ของเมืองอาบูดาบีที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปี 2010 ที่ผ่านมาไม่นานนี้เองก็คือ “สะพานเชค์ ซายิด” (Sheikh Zayed Bridge) ระยะเวลาการสร้างนาน 3 ปีทำให้สะพานแห่งนี้กลายเป็นสะพานโค้งที่ดูยิ่งใหญ่และสวยงามมาก ตัวสะพานนั้นยาวถึง 284 เมตร ระดับความสูงอยู่ที่ 64 เมตร ความกว้างของตัวสะพานสามารถแบ่งออกได้เป็นถนน 8 เลน ที่สวยงามมากกว่าอะไรทั้งหมดคือส่วนโค้งด้านบนของสะพานที่ถูกออกแบบให้เป็นเหมือนเนินทรายบนทะเลทรายที่รายล้อมอยู่รอบเมือง ในเวลากลางคืนบนสะพานจะประดับประดาด้วยแสงสีสวยงามชวนมองที่สุด
Klook.comที่พักแนะนำ
Emirates Palace
“พระราชวังแห่งเอมิเรตส์” (Emirates Palace) แห่งนี้กลับกลายเป็นโรงแรมหรูที่ความสวยงามอลังการนั้นแทบไม่ต่างจากการเป็นพระราชวังเลย และด้วยงบประมาณการสร้างที่มากถึง 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การจะเนรมิตให้โรงแรมดูยิ่งใหญ่ราวกับพระราชวังก็คงไม่ใช่เรื่องเกินจริงอีกต่อไป งบประมาณการสร้างจำนวนนี้ถือว่ามีราคาสูงเป็นอันดับ 2 ของโลกรองลงมาจากโรงแรม Marina Bay Sands ในสิงคโปร์เท่านั้น
โรงแรมสุดหรูแห่งนี้เปิดตัวตั้งแต่ปี 2005 อลังการด้วยอาคารหลักที่กินเนื้อที่กว้างใหญ่นับเป็นตารางกิโลเมตร มีโดมมากถึง 114 หลัง นี่ยังไม่นับรวมอาคารและสวนสวยโดยรอบที่มีพื้นที่มากกว่า 100 เฮกตาร์ มีชายหาดส่วนตัวอีกกว่า 1.3 กิโลเมตรซึ่งพร้อมมอบความเป็นส่วนตัวให้กับลูกค้าได้ทุกเมื่อ ภายในโรงแรมตกแต่งด้วยทองคำแท้ ไข่มุกเม็ดใหญ่และคริสตัลสวยงดงาม แถมด้วยโคมไฟแชนเดอเลียร์ 1,002 ชิ้น ด้วยอลังการงานสร้างทั้งหมดนี้ทำให้พระราชวังแห่งเอมิเรตส์ขึ้นแท่นเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวได้แบบไม่ยากแม้แต่นิดเดียว
Andaz Capital Gate Abu Dhabi – a concept by Hyatt
Hyatt Capital Gate Abu Dhabi ตั้งอยู่ในอาคาร Capital Gate โรงแรมให้บริการห้องพักสุดหรูพร้อมหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานมีวิวเหนือเมือง โรงแรมตั้งอยู่ในย่านสถานทูตและหน่วยงานรัฐบาลและตั้งอยู่ห่างจากสนามบินนานาชาติ Abu Dhabi International Airport เป็นระยะทาง 20 กม. สนามแข่ง Yas Marina Circuit และสวนสนุก Ferrari World อยู่ห่างจากโรงแรมโดยใช้เวลาเดินทางด้วยรถยนต์ 30 นาที มัสยิด Sheikh Zayed Grand Mosque อยู่ห่างออกไปเป็นระยะทางเพียง 5 กม
Jumeriah at Etihad Towers Hotel
Jumeriah at Etihad Towers Hotel โรงแรม 5 ดาว ตั้งอยู่ตรงข้ามกับ Emirates Palace อีกทั้ง Etihad Towers ถูกใช้เป็นจุดถ่ายทำหนัง Furious 7 โดยเป็นฉากที่พระเอกของเรื่องได้ขับรถ Lykan HyperSport ทะลุตึกของ Etihad Towers จำนวณ 3 อาคาร จากทั้งหมด 5 อาคาร