11 พิกัดเด็ดหน้าฝนใกล้กรุง ไปพักผ่อนกันให้ฟิน! ไปเที่ยวช่วงหน้าฝนแบบใกล้กรุง เดินทางไม่ไกลจากกรุงเทพฯ หลีกหนี หลบความวุ่นวายแล้วไปผ่อนคลาย เพิ่มเติมความสดชื่นให้กับชีวิตให้เฟรช กับคนรัก เพื่อนฝูง และครอบครัว รวมทุกสถานที่ท่องเที่ยวทั้งแบบทางธรรมชาติและแบบวัฒนธรรม จะมีที่ไหนกันบ้าง ไปดูและรีบไปเช็คอินกันเลยยยยยย

1.ภูทับเบิก

ทะเลหมอกหน้าฝนที่ ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ ถ้าคนที่นอนเต้นท์ก็จะลำบากหน่อยๆ แต่ตอนเช้าได้ดูแน่นอนทะเลหมอก เพราะกลางคืนฝนตก ลมจะแรงมาก แต่พอตื่นเช้ามา น้องหมอกก็มาให้ได้เห็น รับรอบคุ้มค่ามากกกกกก จุดกลางเต้นท์ยอดนิยมต่างๆ เช่น
ผาหัวสิงห์ , ไร่ริมผา , สวนสวรรค์ภูทับเบิก และอีกมากมาย
อีกอย่างถ้าได้มาแล้วควรอย่างยิ่งมาถ่ายรูปบรรยากาศ ไร่กะหล่ำปลีแบบเต็มหุบเขา ปล.ควรมาช่วงเดือนกรกฎาคม-ต้นเดือนพฤศจิกายน ชมแปลงกระหล่ำปลีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แลถ้าเมื่อไปถึงภูทับเบิกแล้วก็ไม่ควรพลาดเมนู “กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา”
การมาที่นี่ใช้เวลาแค่ เสาร์-อาทิตย์ หรือ เดินทาง ในค่ำคืนวันศุกร์ก็ได้ครับ และไปเช้าตรู่ดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ภูทับเบิก ทุกคนก็สามารถมาเที่ยวได้แล้ว ภูทับเบิกนับว่าเป็นจุดหมายต้นๆ ที่ทุกคนอยากจะเดินทางมาท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจกัน เพราะ ออกเดินทางจาก กทม. ใช้เวลาเพียง 4 -​5 ชม. เท่านั้นเองครับ

2.วัดผาซ่อนแก้ว

วัดสวยๆ บรรยากาศฟินๆ ที่ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว อยู่ท่ามกลางเทือกเขาและทะเลหมอก
วัเนี้ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาในหมู่บ้านทางแดง เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ที่เรียกกันว่า “ผาซ่อนแก้ว” นั้นเนื่องจากมีภูเขาสูงใหญ่ซ้อนกันเป็นทิวเขาเรียงรายโอบรอบบริเวณศาลาปฏิบัติธรรม และบนยอดเขา มีถ้ำอยู่บนปลายยอดเขา มีชาวบ้านทางแดงหลายคน ได้เห็นลูกแก้วลอยเหนือฟากฟ้า และลับหายเข้าไปในถ้ำบนยอดผา ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุเสด็จมา และต่างถือว่าเป็นสถานที่มงคล มีความศักดิ์สิทธิ์และเรียกตามๆ กันว่า “ผาซ่อนแก้ว” นั่นเอง

ช่วงหน้าฝนนี้ที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว นี้ยังเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิว ยิ่งบรรยากาศหลังฝนตกจะ สวยงามวิวดี มีไอหมอกลอยตามตัวอีกด้วย ใครที่มาวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว สักครั้งขอรับรองว่าทุกคนนั้นจะต้องอยากมาอีกเป็นครั้งที่สองครั้งที่สามอย่างแน่นอน เพราะด้วยความสวยงาม อากาศสดชื่น วิวทิวทัศน์ที่ดี และความสงบเงียบ ทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่พักกายอย่างแท้จริงบนเขาค้อแห่งนี้

สามารถติดตามข่าวสารของทาง วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ได้เลย คลิกที่นี่

3.ทุ่งดอกกระเจียว

สายหมอก หยอก ที่ทุ่งดอกกระเจียว ณ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ห่างจากกรุงเทพฯ แค่ 260 กิโลเมตรเอง ใช้เวลาขับรถ 3-4 ชั่วโมงก็ถึง ใกล้ๆ แค่นี้ต้องไปแล้ว.. อยากเที่ยวสัมผัสบรรยากาศสวยๆ แปลกตาของป่าหินที่หลากหลาย แบบนี้รีบไปกันเลย

พิกัดเด็ดหน้าฝนไปพักผ่อนไหนให้ฟิน ใกล้กรุง! ปล. จะบานเต็มพื้นที่ ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม และควรไปให้ถึงแต่เช้าตรู่นะครับจะได้เดินจับสายหมอกกันครับ

4.ไปล่องแก่ง

ไป ล่องแก่ง สุดมันส์!!! เป็นกิจกรรมยอดนิยม ที่มาแล้วห้ามพลาด เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแนวผจญภัย Adventure จะได้รับความท้าทาย ความสนุกสนาน ความมันส์ และได้ชมธรรมชาติอันงดงาม มีเฉพาะในช่วงหน้าฝน สายน้ำจะแรงเบอร์นี้เลยทีเดียว ต้องไป รับรองสนุกมาก น้ำเย็นมาก รับรอบทุกคนจะแฮ๊ปปี้มาก
ล่องแก่งใกล้ๆ กทม. ไปได้หลายจังหวัด เช่น ล่องแก่งที่ กาญจนบุรี , ปราจีนบุรี , นครนายก , ล่องแก่งน้ำว้า ที่จังหวัด น่าน หรือที่ พิษณุโลก ก็ได้ครับสามารถติดต่อที่พักได้เลย

5.อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นับเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย และได้รับสมญานามว่าเป็น อุทยานมรดกของกลุ่มประเทศอาเซียน ตลอดจนเป็นที่ยอมรับทั่วไปว่า เป็นอุทยานแห่งชาติที่สำคัญของโลก  โดยได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดที่ดินบริเวณป่าเขาใหญ่ ในท้องที่ ต.ป่าขะ ต.บ้านพร้าว อ.บ้านนา ต.หนองแสง ต.นาหินลาด อ.ปากพลี ต.สาริกา ต.หินตั้ง ต.พรหมมณี อ.เมือง จ.นครนายก ต.ประจันตคาม อ.ประจันตคาม ต.สัมพันตา ต.ทุ่งโพธิ์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และต.มวกเหล็ก ต.ซำผักแพว อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อ พ.ศ. 2502 ซึ่งลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 79 ตอนที่ 86 ลงวันที่ 18 กันยายน 2505 รวมเนื้อที่ 1,355,468.75 ไร่ หรือ 2,168.75 ตารางกิโลเมตร

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีอาณาเขตครอบคลุม 11 อำเภอของ 4 จังหวัด คือ จังหวัดสระบุรี จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดนครนายก

ขอบคุณข้อมูลส่วนหนึ่งจาก : http://www.khaoyainationalpark.com/

6.บ้านอีต่องเหมืองปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ

“ปิล็อก” เมืองหมอก ตั้งอยู่ติดชายแดนไทย-พม่า ที่อดีตเคยเป็นเมืองทำเหมืองที่เคยรุ่งเรือง เมื่อเสียงเรียกของธรรมชาติ ได้พาเรากระโจน ออกจากเมืองกรุงมุ่งสู่ขุนเขา อันเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านเล็กๆที่ถูกซ่อนตัวอยู่ ” ปิล็อก” โดยเฉพาะหน้าฝน ฟินในความสวยของหมอกหนาๆ ถือเป็นอีกที่ที่บรรยากาศดีมาก วิวก็สวย ผู้คนก็น่ารัก และนอกจากตัวหมู่บ้านแล้ว รอบๆยังมีที่ท่องเที่ยวให้เราเที่ยวเยอะอีกด้วย ทั้งน้ำตก และ ธรรมชาติที่สวยงาม

7.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ดินแดนแห่งมนต์เสน่ห์ ที่ใครมาก็ต้องหลงรักวิถีชีวิตชาวมอญแบบเรียบง่าย ยิ่งเช้าช่วงปลายฝน..ต้นหนาว มีไอหมอกหน่อยๆ ผู้คนเป็นมิตร อากาศดี ใกล้ชิดธรรมชาติ มีสะพานไม้ข้ามแม่น้ำซองกาเรียไปยังหมู่บ้านมอญ เป็นสัญลักษณ์ของอำเภอสังขละบุรี สวยงามตามวิถี
การเดินทาง : ใช้เวลาประมาณ 5 ชม – 6 ซม.  (ระยะทางประมาณ 339.2 กม.) ผ่าน ถนนหมายเลข 323

8.ไปนอนแพกาญจนบุรี

สำหรับคนที่ชอบนอนแพ คนอยากนอนแพ คนที่ไม่เคยเบยที่จะได้ไปนอนแพ มาทางนี้เลย..! ในช่วงหน้าฝนควรหาที่พักที่เป็นรีสอร์ท สภาพที่แวดล้อมไปด้วยไอสวรรค์แห่งธรรมชาติในหุบเขาเขียวขจี ทำให้สัมผัสได้ถึงความรู้สึกผ่อนคลาย ยิ้มรับกับสายหมอกในยามเช้า จะทำให้เราสบายอารมณ์ ที่แม่น้ำแควน้อย จ.กาญ ด้วยสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่แท้จริง เหมาะสำหรับผู้หลงใหลในธรรมชาติ ต้องการความห่างไกลจากความวุ่นวายในเมืองในชีวิตประจำวัน ทุกสิ่งที่นี่ล้วนตอบสนองความสุขของชีวิตคนเมืองได้อย่างแท้จริง ที่จะพร้อมประสบการณ์ที่น่าจดจำ ในวันหยุดพักผ่อนของคุณให้มีความสุดเพอร์เฟค….
สถานที่พักนอนแพ บรรยากาศดี๊ดี เช่น River Kwai Jungle View , The Float House River Kwai Resort , Kwai Tara Riverside Villas , Boutique Raft Resort , X2 River Kwai Resort และยังมีอีกเยอะเลย ครับ

9.ปางอุ๋งสุพรรณบุรี อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง

ไปยิ้มรับวันใหม่สดใสไปด้วยสีเขียว ๆ ที่ ปางอุ๋งสุพรรณบุรี อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ที่สำคัญใกล้ๆกรุงเทพ​ด้วยน้าาเดินทางจากกรุงเทพฯ แค่ 3 ชั่วโมงเอง ที่นี่เหมาะแก่การมาพักผ่อนอากาศดีมากในท่ามกลางหุบเขา บรรยากาศชิลๆ วิวสวยๆ เช้าๆ เราก็จะเห็นเหล่านกบินโฉบไปมา หาปลากินในอ่างเก็บน้ำ ถ้าคุณรักป่ารักเขาแล้วเมื่อไหร่จะรักเรามั่ง คงต้องไปให้ธรรมชาติบำบัตแล้วแหละ ที่นี่สำหรับใครชอบกางเต็นท์สายนี้ต้องห้ามพลาด หรือจะ แพใหญ่ แพเล็ก มีห้องน้ำสะดวกสบาย มีร้านสหกรณ์ มีอาหาร เครื่องดื่ม ให้บริการ ที่นี่แอดขอบอกก่อนเลยว่าบรรยากาศดีสุดๆเลยครับ การันตีได้เลยว่าคนที่ชอบความสงบจะตกหลุมรัก โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ตกลับเหลี่ยมเขานี่สวยสุดๆเลยสมกับฉายา “ปางอุ๋งสุพรรณฯ”

10.เขากระโจม จังหวัดราชบุรี

มอนิ่งวันหยุดสุขสุดสุด ครัช ที่ เขากระโจม อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี อากาศดี ชมทะเล หมอก ชายแดนพม่า สำหรับที่ราชบุรี ช่วงหน้าฝนหรือปลายฝนต้นหนาว แบบนี้ขึ้นไปสูดอากาศบริสุทธิ์บนยอดเขาถือเป็นทางเลือกที่ดี ถ้าหากคุณไม่อยากเดินทางไกลแต่อยากสัมผัสกับบรรยากาศการขึ้นเขารับลมหนาวและชมหมอกหน้าฝน ที่เขากระโจม จังหวัดราชบุรี คือทางเลือกที่คุณต้องห้ามพลาด จะเห็นวิวเทือกเขาตะนาวศรีล้อมรอบตัวเรา มีลานกางเต็นท์ ห้องน้ำชาย/หญิง อาหารนำขึ้นมาทำเองได้นะครับ ข้างบนมีแต่กาแฟซอง มาม่าคัพ โจ๊กคัพ ในช่วงหน้าฝนแบบนี้ขอบอกเลยว่าทะเลหมอกบนเขากระโจม ที่เที่ยวหน้าฝนแห่งนี้สวยมากๆ ชมพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมทะเลหมอกแบบฟินๆ ที่สำคัญอยู่ใกล้กรุงเทพฯ ต้องห้ามพลาด สุดเขตประเทศไทย เรา คือ ผู้พิชิตเขากระโจม

11 พิกัดเด็ดหน้าฝนใกล้กรุง ไปพักผ่อนกันให้ฟิน! ถ้าไปที่นี่ต้องขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้น สามารถเหมารถจากด้านล่างเป็นกระบะ 4wd ขึ้นไปได้เลยจะดีกว่าเพราะระยะทางค่อนข้างชันมากเลย ต้องให้คนชำนาญทางเท่านั้น และที่สำคัญต้องรีบไปให้ทันพระอาทิตย์ขึ้นนะครับ

11.เมืองน่าน

อุ๊ยยยย น่านนนนไงงง แบกเป้เที่ยวน่าน เมืองเล็กๆน่าไปท่องเที่ยวอยู่ทางภาคเหนือ อยู่กันแบบเรียบง่าย ธรรมชาติก็ยังอุดมสมบูรณ์ เป็นเมืองที่น่าไปมากในในช่วงหน้าฝนอย่างแน่นอน…เพราะมองไปทางไหนก็เขียวชอุ่ม สดชื่นสบายตา แถมทุ่งนาก็เริ่มปักดำหว่านกล้ายิ่งถ้าช่วงปลายฝนต้นหนาวทุ่งนาก็จะเหลืองอร่ามมีออร่าของความเป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์มาก พอถ้าช่วงปลายปีแล้วทุ่งนาก็จะถูกเก็บเกี่ยวไปหมด ที่น่านมีที่ท่องเที่ยวทั้งธรรมชาติ , วัด , หมู่บ้านวัฒนธรรมต่างๆ , ชมวิธีชีวิตชาวบ้าน , นั่งกินชาชมวิวที่ร้านคาเฟ่ท่ามกลางหุบเขา , ตลาดของฝากต่างๆ ,
แต่ถ้าสำหรับสายกางเต็นท์ชอบไปนอนดูดาวก็โหวตให้ไปในช่วงหน้าหนาวเลยครับสวยงามเย็นเป็นที่สุดเลย แถมตื่นเช้ามาเจอทะเลหมอกด้วยน๊าาาา สำหรับใครที่เคยไปรอบแรกแล้ว ต้องติดใจเมืองน่าน​ ต้องมีรอบสองแน่ๆ ถ้าพร้อมเราไปแล้วไปแอ่วน่านกันเลยเจ้า!
การเดินทาง : 8 – 9 ชม. ประมาณ 700 กิโล จาก กทม. เดินทางแบบ 3วัน 2คืน ก็ไปท่องเที่ยวได้เลย

สนใจเดินทางท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก เข้าชมติดตามได้เลยที่ เว็บบริษัท http://povtravel.co.th/