Point of view
วัน-เวลาทำการ : เราจะติดต่อกลับในเวลาทำการ : จันทร์ - ศุกร์ 09.00 - 17.00
(หยุดวันเสาร์ - อาทิตย์ และ วันหยุดตามปฏิทิน)
ติดต่อข่าวสารโปรโมชั่นทัวร์
qrcode
@povtravel

เที่ยวสวนสนุก Go To Universal Studios Japan Osaka ให้คุ้มทำยังไง มาดูกัน !!

กรกฎาคม 27, 2019 | by Point of view

เที่ยวสวนสนุก สำหรับบทความนี้ พาไปพบกับ Universal Studios Japan สวนสนุกที่จำลองนำภาพยนต์ที่สำคัญ ๆ ที่เราคุ้นเคยกัน จากค่าย Universal มาเป็นเครื่องเล่นโดยสวนสนุกนี้ ตั้งอยู่ที่เมืองโอซาก้า (Osaka) ประเทศญี่ปุ่น โดยเป็นสวนสนุกมีเครื่องเล่นที่มีขนาดใหญ่ เป็นสถานที่ดึงดูดผู้คนจำนวนมากจากทั่วโลกมาท่องเที่ยวเยี่ยมชมมากมายเลยครับ

ส่วนด้านในนั้นจะมีอะไรให้ชมบ้าง แล้วเล่นเครื่องเล่นอย่างไรให้คุ้มค่า แม้คนจะเยอะมากในทุกวัน ติดตามได้ที่บทความนี้กันได้เลยครับ

เริ่มต้นที่การเดินทาง การเดินทางไปที่ Universal Studios Japan™ ที่สะดวกของโอซาก้าที่สุดคือ การนั่งรถไฟฟ้า JR นั่งลงที่สถานี Universal City แล้วเดินตามทาง ซึ่งไม่หลงแน่นอนครับ เดินตามเขาไปเรื่อยๆ ก็จะเจอแล้วครับ

โดยค่าเข้าของสวนสนุกเราสามารถซื้อจากในร้านค้าออนไลน์ หรือ ทัวร์ที่ท่านเดินทางก็ได้นะครับ ราคาไม่แน่นอนเท่าไรนัก แต่อยู่ที่ราว ๆ 2,3xx – 2,5xx บาท ครับ หรือจะไปซื้อที่หน้าสวนสนุกก็ได้ราคาเท่ากัน (แต่เตรียมตัวจากไทยไปจะดีกว่านะครับ) จะได้ไม่เสียเวลาต่อแถว

เที่ยวสวนสนุก - 1
เที่ยวสวนสนุก – 1
 

เมื่อเข้ามาก็จะเจอบรรยากาภายในเมืองสวนสนุกครับ ซึ่งก็จำลองไว้อย่างอลังการมาก ๆ แบ่งเป็นโซนต่าง ๆ เช่น Hollywood, New York, San Francisco เป็นต้น ซึ่งแต่ละโซนก็จะมีเครื่องเล่นรูปแบบที่แตกต่างกันไปเลยครับ

เล่นเสร็จถ่ายรูปเดินผ่านมาเรื่อยๆ ก็มาที่ตัว TOP ของ USJ ที่ใครๆก็ต้องไปคือที่ Harry Potter นั่นเอง

บรรยากาศโซนนี้คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกจริงๆเลยครับ ยิ่งถ้ามาใในช่วงหน้าหนาวเป็นอะไรที่ฟิน คูลๆ มากจริงๆเลยครับ

พระเอกของงานเลยครับ คือ ปราสาทฮอกวอตส์ สวยงามสง่างามและเป็นที่ตั้งของเครื่องเล่น Harry Potter and the Forbidden Journey เครื่องเล่น 3D Adventure ที่ขอบอกเลยว่า สนุก ตื่นตา ฉากสวยงามตระการตามากเลยครับ

ออกจาก Harry เดินมานิดนึงก็จะเจอฉลามยักษ์จากภาพยนตร์คลาสสิคเรื่อง JAWS

ถัดมาก็มินเนี่ยนอีกหนึ่งเครื่องเล่นล่าสุดของ USJ ที่จัดทำเป็นลักษณะ 3D Adventure

 

ขอสรุปวิธีการเล่นให้คุ้มค่า คุ้มเวลา ในคร่าวๆตามเวลาที่เหมาะสม ดังนี้นะครับ

สำหรับเครื่องเล่นทั้งหมดใน USJ มีค่อนข้างหลากหลาย เหมาะกับผู้เล่นทุกวัยจริงๆ
1. Hollywood Dream the Ride รถไฟเหาะตีลังกาแบบสุดมันส์
2. The Flying Dinosaur เครื่องเล่นรถไฟเหาะที่จับเราคว่ำหน้า ให้บรรยากาสเหมือนโดนนกไดโนเสาร์โฉบไปกิน
3. New Spiderman 3D Adventure ที่สมจริง ห้ามพลาด
4. Harry Potter and the Forbidden Journey เครื่องเล่น3d ที่จำลองเหมือนเราไปอยู่ในหนังแฮรี่พอร์ตเตอร์
5. Flight of the Hippogriff รถไฟหัวฮิปโปกริฟ ฟีลแบบรถไฟหนูบ้านเรา แต่อลังกว่า
6. JAWS ล่องเรือต่อสู้กะฉลาม มีไกด์นำทัวร์ ไม่หวาดเสียวแต่เพลินดี
7. Terminator 2: 3-D 1 รอบ อันนี้ก็ไม่มีอะไร จำลองฉากต่อสู้ ให้เราไปนั่งชมเหมือนโรงหนัง 4D ส่วนตัวรู้สึกเฉยๆ
8. Minion · Hachamecha · Ride ผจญภัยในโลกมินเนี่ยน 

จะเล่นเครื่องเล่นละ 1-2 รอบก็ได้เลย

ทั้งนี้ ผมไม่ได้ใช้ Extra Pass ใดๆ แต่ถ้าจะให้คุ้มค่าต้องวางแผนคร่าวๆคือ
1. ดูแผนที่ให้ดี ว่าอะไรอยู่ตรงไหนบ้างของในนั้น
2. ไปเล่นสิ่งที่อยากไปก่อนเป็นอย่างแรก ไม่ต้องเห่อ Harry Potter
3. ดูเวลารอ Real Time ที่ลิงค์ http://usjinfo.com/wait/realtime.php เพื่ออัพเดตว่าที่เราอยากเล่นตอนนี้รอนานเท่าไรยังไงบ้าง
4.ใช้ Single Ride แม้จะมากะเพื่อน แต่ช่องทางนี้เร็วกว่าจริงๆ อย่างตอนเล่น Spiderman ช่องปกติ รอ 50 นาที ช่อง single รอแค่ 5 นาที จะได้มีเวลาเล่นซ้ำ หรือไปเล่นอย่างอื่น ซึ่งเครื่องเล่นเกือบทั้งหมดมี Single Ride จะมียกเว้นคือ Harry ในปราสาท กับ มินเนี่ยน นะครับ
5.เครื่องเล่นพีคๆ ไปเล่นค่ำๆ ใช้เวลารอน้อยกว่ามากๆ อย่าง Harry 5 นาที ย้ำ 5 นาทีจริงๆ หรือ Flying Dino ก็แทบจะได้ขึ้นทันที อันนี้แล้วแต่ช่วงด้วยนะครับ

เพียงเท่านี้ ลูกค้าทุกท่านของเราก็จะได้เล่นเครื่องเล่น USJ แบบคุ้มค่าคุ้มเวลา ในราคาแพงที่จบทริปได้สวยและเก็บได้ครบในเครื่องเล่นตัวท็อปด้วยเลยครับ
 
เที่ยวสวนสนุก - 2
เที่ยวสวนสนุก – 2

ประเทศญี่ปุ่นตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือและทะเลญี่ปุ่น พื้นที่ของญี่ปุ่นคิดเป็น 377,873 ตารางกิโลเมตรซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกับประเทศเยอรมันและสวิตเซอร์แลนด์รวมกัน หรือมีขนาดเล็กกว่าแคลิฟอร์เนียเล็กน้อย ประเทศญี่ปุ่นประกอบด้วยเกาะหลัก 4 เกาะ ล้อมรอบด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยกว่า 4,000 เกาะ

Klook.com

ตารางด้านล่างแสดงที่ตั้งและขนาดของเกาะหลักทั้งสี่

 ฮอกไกโด (เกาะทางเหนือ)83,457 ตารางกิโลเมตร
 ฮอนชู (เกาะหลัก)231,121 ตารางกิโลเมตร
 ชิโกคุ (เกาะที่เล็กที่สุดในบรรดาเกาะหลัก)18,793 ตารางกิโลเมตร
 คิวชู (เกาะทางใต้)42,194 ตารางกิโลเมตร

นประเทศญี่ปุ่นใช้ภาษาราชการเพียงภาษาเดียวนั่นคือภาษาญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ในระดับหนึ่ง เนื่องจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศที่บรรจุอยู่ในการศึกษาภาคบังคับที่ทุกคนต้องเรียนรู้

Klook.com

ดังนั้น แม้ว่าคุณจะไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่นคุณก็ยังสามารถเพลิดเพลินกับการเที่ยวญี่ปุ่นได้ แต่ถ้าคุณรู้จักภาษาญี่ปุ่นที่ใช้ในชีวิตประจำวันไว้สักเล็กน้อย ก็จะทำให้การเดินทางท่องเที่ยวของคุณสะดวกสบายมากขึ้น การท่องจำคำศัพท์ที่เป็นประโยชน์เพียงไม่กี่คำอาจก่อให้เกิดความแตกต่างได้อย่างมากมาย

โอะฮะโยะ โกะไซมะสุสวัสดีตอนเช้า
คนนิจิวะสวัสดีตอนกลางวัน
คมบังวะสวัสดีตอนเย็น
โอะยะซุมิ นะไซราตรีสวัสดิ์
ซะโยะนะระลาก่อน
ซุมิมะเซนขอโทษ
โกะเมน นะไซฉันเสียใจ
วะกะริมะเซนฉันไม่เข้าใจ
อะริงะโตะ โกะไซมะสุขอบคุณ
ไฮ่ใช่
อิเอะไม่ใช่

ญี่ปุ่นมี 4 ฤดูกาล คือ ฤดูใบไม้ผลิ อยู่ระหว่างเดือนมีนาคม พฤษภาคม เป็นฤดูที่สวยงาม ดอกไม้บานสะพรั่ง คนญี่ปุ่นถือว่าเป็นฤดูแห่งการเริ่มต้นของสิ่งต่างๆ และเป็นช่วงเปิดเทอม ช่วงปลายเดือนเมษายน ต้นเดือนพฤษภาคม (29 เมษายน ถึง 5 พฤษภาคม) เป็นช่วง Golden Week ของชาวญี่ปุ่นที่จะได้หยุดพักผ่อนติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน สิงหาคม ช่วงต้นฤดูร้อนจะมีฝนตกแทบทุกวันประมาณ 3-4 สัปดาห์ ช่วงกลางเดือนกรกฎาคมอากาศร้อนชื้น และเป็นช่วงของการปิดภาคเรียนฤดูร้อน กิจกรรมที่นิยมกันมากที่สุดคือ การพักผ่อนตามชายหาด อาบแดด และแคมปิ้ง ในช่วงนี้ชาวญี่ปุ่นนิยมส่งการ์ดถึงกันและกันเพื่อถามเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในฤดูนี้ ซึ่งการ์ดนี้เรียกว่า Shochu mimai

ฤดูใบไม้ร่วง เริ่มตั้งแต่เดือนกันยายน พฤศจิกายน เป็นฤดูที่แสนโรแมนติก ใบไม้สีเขียวสีแดงค่อยๆร่วงหล่นในบริเวณทั่วไป และฤดูนี้ยังเป็นช่วงชองการแข่งกีฬาระหว่างโรงเรียนอีกด้วย ในฤดูนี้จะมี 1 วันที่พระอาทิตย์ส่องแสงยาวนานที่สุด ซึ่งเรียกว่า Geshi

เวลา : เวลาที่ญี่ปุ่นเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง

เงินตรา : ใช้เป็นสกุลเงิน Japanese yen or JPY หรือที่เรียกว่าเงิน เยน มีธนบัตร  1,000 / 5,000 / 10,000 เยน
               และเหรียญ 1 / 5 / 10 / 50 /100 และ 500 เยน

ระบบไฟฟ้า : ญี่ปุ่นใช้กระแสไฟฟ้า 110V หัวปลั๊กจะมีลักษณะ เป็น 2 ขา แบน 

ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม กุมภาพันธ์ ในช่วงนี้ภูมิภาคทางเหนืออย่าง ฮอกไกโด โตโฮกุ อากาศจะหนาวเย็นมากและมีหิมะตกหนัก แต่ในฤดูนี้มีเทศกาลที่มีความสำคัญที่สุดคือ ปีใหม่ คนในครอบครัวจะฉลองกันด้วย บะหมี่ข้ามปี หรือที่เรียกว่า Toshikoshi soba (ถือกันว่าบะหมี่นี้แทนความมีอายุยืน เพราะมีลักษณะเป็นเส้นยาว) และรอคอยฟังเสียงระฆังต้อนรับปีใหม่ ผู้ที่ตีระฆังนี้คือ พระและจะตีทั้งหมด 108 ครั้ง เพราะคนญี่ปุ่นเชื่อว่า คนเราจะมีสิ่งไม่ดีอยู่ 108 อย่าง โดยเริ่มนับถอยหลังไปเรื่อยๆ เมื่อตีครบจำนวนจะเท่ากับว่า เราจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่กับสิ่งที่ดีๆ

ประชากร ญี่ปุ่นมีประชากรประมาณ 127.5 ล้านคน (ตุลาคม 2545 ชาย 62.3 ล้านคน หญิง 65.2 ล้านคน) นับเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 8 ของโลก

ภาษา ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาราชการของญี่ปุ่น และในแต่ละภูมิภาคจะมีภาษาท้องถิ่นของตนเอง ภาษาอังกฤษ จะใช้บ้างในบางที่ เช่น สนามบิน โรงแรมใหญ่ๆ หรือสถานที่ราชการบางแห่งที่ต้องติดต่อสื่อสารกับคนต่างชาติ เด็กนักเรียนญี่ปุ่นจะเริ่มเรียนภาษาอังกฤษเมื่ออยู่ชั้นมัธยมต้น แต่การเรียนการสอนมักจะเน้นเพื่อการสอบแข่งขันมากกว่าใช้ปฏิบัติจริง ดังนั้น แม้ว่าคนรุ่นใหม่ของญี่ปุ่นจะใช้ภาษาอังกฤษได้มากขึ้น แต่ภาษาญี่ปุ่นยังคงมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการใช้ชีวิตในประเทศญี่ปุ่น

ศาสนา ศาสนาสำคัญในญี่ปุ่นมีสองศาสนา ได้แก่ ชินโต และพุทธศาสนา แม้ว่าคนส่วนใหญ่ในปัจจุบันกล่าวว่าพวกเขาไม่มีความเชื่อในศาสนาใดเป็นพิเศษ แต่ส่วนใหญ่ก็ปฏิบัติตามประเพณีและพิธีกรรมของทั้งชินโตและพุทธศาสนา

Klook.com