เที่ยวยุโรป สะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge – Karlův most) เป็นสะพานเก่าแก่สไตล์โกธิกที่ทอดข้ามแม่น้ำ Vitava เชื่อมระหว่าง Old Town และ Little Town สะพานสร้างในปี 1357 ในสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 4 มาเสร็จสมบูรณ์ในช่วงต้นศตวรรษที่ 15 มีความยาว 516 เมตร (1,693 ft) และ กว้าง 10 เมตร (33 ft)
ปราก คือเมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก และ ยังเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอีกด้วย เมืองที่ได้รับสมญานามว่าเป็น “เมืองร้อยยอด” แห่งนี้เต็มไปด้วยวิหาร, ยอดแหลมของหอคอย และพื้นถนนที่ปูด้วยแผ่นหิน บรรยากาศที่แสนมหัศจรรย์ของปรากทำให้เกิดส่วนผสมที่ลงตัวของทั้งความเก่าและใหม่ ดังที่จะเห็นได้จากอนุสรณ์สถานและอาคารที่แสดงให้เห็นถึงสถาปัตยกรรมในสไตล์ต่าง ๆ อาทิ โรมาเนสก์, โกธิค, บาโรก, เรเนซองส์ และอาร์ตนูโว นอกจากนี้ยังมีจัตุรัสและสวนสาธารณะอีกมากมายสำหรับการเดินเล่นและปิกนิกเพื่อดื่มด่ำกับอาหารพื้นเมืองอร่อย ๆ และ เบียร์รสชาติแบบเช็ก
เที่ยวยุโรป จุดเด่นของสะพาน คือรูปปั้นโลหะของเหล่านักบุญสไตล์ Baroque ที่ตั้งอยู่สองข้างสะพานจำนวณ 30 องค์ ซึ่งหนึ่งในจำนวนนี้มีรูปปั้นของเซนต์จอห์น เนโปมุก (St. John Nepomuk Little Town) เป็นรูปปั้นที่เก่าแก่ที่สุดบนสะพาน สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1683
ระหว่างเดินข้ามสะพาน จะได้สัมผัสกับรูปหล่อโลหะสัมฤทธิ์ นักบุญจอห์น เนโปมุก John Nepomuk ซึ่งเป็นที่นับถือกันมาก เชื่อกันว่าหากใครได้สัมผัสแล้ว จะได้กลับมาที่ปรากอีกครั้ง
Old Town Bridge Tower
หอสะพานเมืองเก่า Old Town Bridge Tower (Staroměstská mostecká věž) ได้รับการยกย่องว่าเป็นหอสะพานที่สวยที่สุดในยุโรป สามารถขึ้นไปชมทิวทัศน์จากดาดฟ้าของหอคอยได้ โดยขึ้นบันได 138 ขั้น
เวลาทำการ
พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ | 10:00 – 18:00 |
มีนาคม | 10:00 – 20:00 |
เมษายน – กันยายน | 10:00 – 22:00 |
ตุลาคม | 10:00 – 20:00 |
สภาพอากาศ
ฤดูใบไม้ผลิ (ปลายเดือนมีนาคม – กลางเดือนกรกฏาคม) – ดอกไม้บานสะพรั่ง แสงแดดอบอุ่น และอากาศสบายๆ
ฤดูร้อน (กลางเดือนกรกฎาคม – กลางเดือนกันยายน) – ทุกที่เป็นสีเขียว ดอกไม้บานเต็มที่ แต่บางเมืองก็แดดแรงและร้อนสุดๆ มีช่วงกลางวันนานกว่าฤดูอื่นๆ
ฤดูใบไม้ร่วง (ปลายเดือนกันยายน – ปลายเดือนพฤศจิกายน) – ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีส้มสีแดง เป็นฤดูของผลไม้อร่อยๆ เช่น แอปเปิ้ล แพร์ องุ่น ลูกพลับ และถั่วชนิดต่างๆ อากาศเริ่มเย็นขึ้น และช่วงกลางวันเริ่มสั้นลง
ฤดูหนาว (ต้นเดือนธันวาคม – ต้นเดือนมีนาคม) – อากาศหนาวเย็น บางวันอาจมีเมฆครึ้มและหิมะตก พระอาทิตย์จะขึ้นช้าและตกเร็ว ทำให้มีช่วงกลางวันสั้นกว่าฤดูอื่นๆ
จะไปเที่ยวกรุงปรากควรจะไปช่วงไหนดี
1. เดือนมกราคม : เดือนมกราคมเป็นช่วงเวลาที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการไปเที่ยวปราก เพราะมีเทศกาลต่างๆ รวมทั้งช่วงวันหยุดปีใหม่ นอกจากนั้น การไปเที่ยวปรากในช่วงเวลานี้จะช่วยคุณประหยัดค่าใช้จ่ายเนื่องจากได้รับ ราคาพิเศษทั้งในเรื่องตั๋วเครื่องบินและห้องพักโรงแรม อย่างไรก็ดี อากาศในช่วงเวลานี้อาจจะหนาวจัดจนถึงจุดเยือกแข็งได้ อุณหภูมิเฉลี่ยในช่วงบ่ายของเดือนนี้จะอยู่ที่จุดเยือกแข็งและอุณหภูมิ เฉลี่ยในเวลากลางคืนจะลดลงอยู่ที่ประมาณ -5.4 องศาเซลเซียส นอกจากอากาศจะหนาวจัดแล้ว ยังค่อนข้างแห้ง มีไอน้ำในอากาศเฉลี่ย 23 มิลลิเมตร เมืองนี้มีความงดงามท่ามกลางหิมะ และหากคุณไม่เกี่ยงเรื่องหิมะแล้วล่ะก็ อย่าลืมไปแวะหาของกินอุ่นๆ ในตลาดและร้านขายของข้างทาง เช่น ขนมอบ “trdelnik” เป็นต้น
2. เดือนกุมภาพันธ์ : การท่องเที่ยวในปรากช่วงเดือนกุมภาพันธ์ โดยปกติจะลดลงค่อนข้างมากเนื่องจากสภาพ อากาศ ในช่วงเวลานี้ราคาโรงแรมจะถูกและการจองห้องพักในนาทีสุดท้ายก่อนเดินทางมี ความเป็นไปได้สูง ในเดือนกุมภาพันธ์หลายโรงแรมจะเสนอให้ที่พักสามคืนในราคาสำหรับสองคืน แต่อย่าลืมว่าการท่องเที่ยวจะเริ่มดีขึ้นในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน โดยมากจะเป็นนักท่องเที่ยวจากแถวยุโรปที่พากันหลั่งไหลเข้ามาที่เมืองนี้ อากาศจะอุ่นขึ้นเล็กน้อยในช่วงกลางวันของเดือนกุมภาพันธ์ แต่ในช่วงบ่ายๆ ยังคงหนาวด้วยอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิในช่วงกลางคืนยังคงต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง เฉลี่ยประมาณ -4 องศา แม้ว่าอากาศในเดือนนี้จะยังคงแห้งมาก แต่ก็อาจมีฝนสลับกับหิมะ
3. เดือนมีนาคม : การท่องเที่ยวเริ่มดีขึ้นในเดือนมีนาคม แต่หากคุณรีบจองที่พักแต่เนิ่นๆ ก็ยังอาจได้ราคาถูก ในเดือนมีนาคมโดยทั่วไปแล้วอากาศยังหนาวอยู่ โดยเฉพาะในช่วงต้นเดือน ตกบ่ายอากาศจะอุ่นขึ้นอยู่ที่ประมาณ 8 องศาเซลเซียส และยังคงลดต่ำลงในช่วงกลางคืน อย่าลืมแพ็คเสื้อผ้าหนาๆ และเครื่องกันฝนติดไปด้วย เพราะในเดือนมีนาคม เริ่มจะมีความชื้นในอากาศมากขึ้น
4. เดือนเมษายน : เดือนเมษายน ถือเป็นการเริ่มต้นฤดูท่องเที่ยวของเมืองนี้อย่างไม่เป็นทางการ เพราะอากาศเริ่มอุ่นขึ้นและมีกลิ่นไอของเทศกาลอีสเตอร์ คุณจะได้เห็นการจัดเตรียมงานต่างๆ สำหรับเทศกาลอีสเตอร์ เช่น การเพนท์ไข่ที่สวยงามและในตลาดอีสเตอร์ก็จะเต็มไปด้วยสินค้าและอาหารต่างๆ ให้คุณเลือกซื้อหา เดือนเมษายนอากาศเริ่มดีขึ้นด้วยอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 13 องศาเซลเซียสในช่วงระหว่างวันและประมาณ 3 องศาเหนือจุดเยือกแข็งในช่วงกลางคืน ด้วยอากาศที่ดีเช่นนี้ จึงถือว่าเดือนเมษายนเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดช่วงหนึ่งสำหรับการมาเยือนปราก
5. เดือนพฤษภาคม : อากาศในเดือนพฤษภาคม ถือว่าดีที่สุดของปีสำหรับผู้ที่ตั้งใจไปเที่ยวกรุงปราก อากาศอบอุ่น ไม่ร้อน ดอกไม้เริ่มผลิบาน กรุงปรากเป็นเมืองมหัศจรรย์ที่ควรเดินทางไปสำรวจ นอกจากนี้ ในเดือนพฤษภาคมยังเป็นเทศกาลดนตรีของปรากสำหรับฤดูใบไม้ผลิซึ่งจะเริ่มจาก สัปดาห์ที่สองของเดือนไปจนถึงต้นเดือนมิถุนายน ด้วยนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่พากันเข้ามาเที่ยวปรากช่วงนี้ จึงควรหลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เพื่อลดความแออัดหรือคุณ อาจอยู่เที่ยวต่อจนถึงวันอังคารหรือวันพุธ ในเมืองปรากระหว่างเดือนพฤษภาคมนั้นอากาศยามบ่ายค่อนข้างสบายโดยเฉลี่ยอยู่ ที่ประมาณ 18 องศาเซลเซียส และต่ำสุด 7 องศา อย่างไรก็ดี ควรติดร่มไปด้วย เพราะในช่วงเดือนพฤษภาคมนั้นมีปริมาณฝนเฉลี่ย 77 มิลลิเมตร
6. เดือนมิถุนายน : หากคุณมุ่งหน้าไปปรากในเดือนมิถุนายน ควรจะจองตั๋วเครื่องบินและที่พักแต่เนิ่นๆ เพื่อให้ได้ราคาที่ไม่แพง อากาศในช่วงเวลานี้ของปีนับว่าดีมาก คนส่วนใหญ่จึงถือโอกาสนั่งกินอาหารและทำกิจกรรมสนุกสนานกลางแจ้ง แต่ข้อเสียสำหรับเดือนมิถุนายนก็คืออาจเป็นเดือที่เปียกปอนด้วยปริมาณไอน้ำ ในอากาศโดยเฉลี่ย 73 มิลลิเมตร อากาศยามบ่ายค่อนข้างดีประมาณ 21 องศาเซลเซียส และในช่วงกลางคืนอากาศต่ำสุดโดยประมาณ 10 องศา
7. เดือนกรกฎาคม : เดือนกรกฎาคม ถือเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดเดือนหนึ่งของปี แต่ก็หมายความว่าผู้คนจะออกมาสนุกสนานข้างนอกกันมากขึ้น ในช่วงนี้ ควรจัดเตรียมเสื้อผ้าหลวมๆ ที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี เช่น ผ้าฝ้าย เพื่อที่คุณจะได้รู้สึกสบายๆ ไม่อึดอัดมากนัก อย่าลืมเอากางเกงขาสั้น และเสื้อบางๆ มาด้วย แต่ปริมาณฝนเล็กน้อยก็อาจช่วยให้อากาศเย็นลงได้บ้าง น่าจะติดเสื้อแขนยาวสักตัวสองตัวเผื่อเอาไว้ก็ดี โดยเฉพาะในช่วงหัวค่ำ อุณหภูมิในช่วงบ่ายอยู่ที่ 23 องศาและ 12 องศาในช่วงกลางคืน ปริมาณไอน้ำโดยเฉลี่ยในเดือนนี้อยู่ที่ 66 มิลลิเมตร ฝนมักจะตกในช่วงบ่ายและหัวค่ำ
8. เดือนสิงหาคม : เดือนสิงหาคม ก็เป็นอีกเดือนที่ร้อนมากที่สุดของปี และเนื่องจากอากาศที่ร้อนจัด ชาวปรากจำนวนมากจะออกไปเที่ยวพักผ่อนนอกเมือง ดังนั้นคุณจะเห็นกรุงปรากที่มีผู้คนไม่พลุกพล่านมากนัก แต่ยังคงมีกิจกรรมต่างๆ มากมายให้ชม เช่น การเที่ยวชมสวนหรือแค่นั่งจิบเบียร์ของปรากด้านนอกร้านกาแฟ กรุงปรากยามบ่ายในช่วงเดือนสิงหาคมอาจจะร้อน ด้วยอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 23 องศาเซลเซียส ในช่วงเช้าๆ อากาศค่อนข้างดี มีอุณหภูมิเฉลี่ยที่ 11 องศาเซสเซียส ปริมาณน้ำฝนในเดือนนี้อยู่ที่ 70 มิลลิเมตร
9. เดือนกันยายน : เดือนกันยายน อาจจะอุ่นในตอนเช้า แต่เย็นในช่วงค่ำ ดังนั้น คุณควรสวมเสื้อผ้าหลายชั้นที่สามารถถอดหรือสวมใส่ได้ง่าย เพื่อจะได้รู้สึกสบายไม่ว่าอากาศจะเป็นเช่นไร เนื่องจากอากาศที่ค่อนข้างดีมากในเดือนกันยายน จึงทำให้เมืองคราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะในช่วงสุดสัปดาห์ การหาตั๋วหรือที่พักราคาถูกจะยากขึ้น ดังนั้นจึงควรเตรียมตัวล่วงหน้า ตกบ่ายอากาศจะเย็นลง อากาศสูงสุดประมาณ 19 องศา และต่ำสุดที่ 9 องศา เดือนกันยายนค่อนข้างแห้งมีปริมาณไอน้ำในอากาศเพียง 40 มิลลิเมตร
10. เดือนตุลาคม : อากาศเดือนตุลาคม อาจจะเย็นแต่ก็ยังคงเป็นช่วงที่ดีในการเที่ยวชมกรุงปราก ฝูงชนเริ่มลดน้อยลง คุณต้องสวมแจ็กเก็ตบางๆ ขณะออกไปเดินเที่ยวชมเมือง อุณหภูมิในเดือนตุลาคมสูงสุดประมาณ 13 องศา และต่ำสุดที่ 4 องศา เดือนนี้มีการบันทึกปริมาณน้ำฝนไว้เพียง 30 มิลลิเมตร
11. เดือนพฤศจิกายน : เดือนพฤศจิกายน อากาศเริ่มกลับเข้าสู่ความหนาวเย็น โดยเฉพาะในช่วงเช้าๆ ที่จริงแล้ว เดือนนี้อาจเริ่มมีหิมะตกและเมืองก็ค่อนข้างจะมืดครึ้มจากเมฆเทาดำที่ปกคลุม แต่ยังคงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการหาโรงแรมดีๆ ในเมืองเพราะโรงแรมส่วนใหญ่จะเสนอราคาพิเศษเพื่อปิดช่องว่างระหว่างฤดูใบไม้ ผลิและช่วงเริ่มต้นเทศกาลวันหยุดต่างๆ อย่าลืมแพ็คเสื้อผ้าที่อุ่นๆ ไปด้วย เพราะอากาศโดยเฉลี่ยสูงสูดจะอยู่ที่ 6 องศาเซลเซียส และจะลดลงถึงจุดเยือกแข็งในช่วงกลางคืน
12. เดือนธันวาคม : ในช่วงครึ่งแรกของเดือนธันวาคม อาจเป็นช่วงที่เงียบมากในกรุงปราก แต่ด้วยเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง ทำให้เมืองนี้เริ่มครึกครึ้นมากขึ้นในช่วงสองสัปดาห์สุดท้ายของเดือน อย่าลืมนำเสื้อผ้าหนาๆ ติดไปด้วยเพราะอุณหภูมิเฉลี่ยระหว่างวันจะอยู่ที่ 2 องศาเซลเซียสเท่านั้น และจะลดลงถึง -3 องศาในช่วงกลางคืน หิมะจะตกในเดือนธันวาคม และมีปริมาณไอน้ำในอากาศโดยแฉลี่ยที่ 25 มิลลิเมตร