ทริปญี่ปุ่น เมืองฮอกไกโด เป็นเมืองขนาดใหญ่อยูตอนบนของประเทศญี่ปุ่น จึงมีภูมิประเทศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี รวมไปถึงทิวทัศน์ตามธรรมชาติที่ควรมาชมให้ได้สักครั้งในชีวิตให้ได้ ใครที่มีแพลนจะไปเที่ยวฮอกไกโด แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหน วันนี้หมีพอยท์มาแจ้งกิจกรรมต่างๆในฮอกไกโด
ฮอกไกโดเป็น เกาะที่อยู่ทางตอนเหนือสุดของญี่ปุ่นและถูกโอบล้อมด้วยทะเลทุกทิศทาง มีพื้นที่กว้างขวางซึ่งคิดเป็น 22% ของพื้นที่ทั้งหมดของประเทศญี่ปุ่น ด้วยความชื้นที่ต่ำทำให้ฤดูร้อนยังคงสร้างความเบิกบานได้ ในขณะที่ช่วงฤดูหนาวก็สามารถเพลิดเพลินกับกีฬาฤดูหนาวได้ นับเป็นเกาะ ที่ได้รับความนิยมให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวตลอดทั้งสี่ฤดูกาล
ในฮอกไกโดคุณสามารถเพลิดเพลินไปกับความงดงามของธรรมชาติได้อย่างจุใจ ไม่ว่าจะเป็นอุทยานแห่งชาติไดเซทซึซังซึ่งมีรูปทรงเป็นหลังคาของฮอกไกโด, คาบสมุทรชิเรโตโกะที่เงียบสงบ, บึงคุชิโระ เป็นถิ่นกำเนิดของสิ่งของเพื่อการดำรงชีพที่มีคุณค่าหลากหลาย เช่น รถเครนญี่ปุ่น ฯลฯ, อุทยานแห่งชาติชิโคทซึ-โทยะซึ่งเต็มไปด้วยภูเขาไฟและทะเลสาบ และชายฝั่งฉะโคทันที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ ยังมีน้ำพุร้อนจำนวนมากมาย เช่น โนโบริเบทซึ, โจซังเค และโซอุนเคียว ซึ่งคุณสามารถเพลิดเพลินไปกับการอาบน้ำแบบผ่อนคลาย ที่จะช่วยให้คุณหายจากความเมื่อยล้าจากการเดินทางได้
เทศกาลหิมะซัปโปโร และ เทศกาลน้ำแข็งลอยมอมเบะทซึ จะมีขึ้นในช่วงฤดูหนาว ส่วนในฤดูร้อนสามารถเพลิดเพลินไปกับเทศกาลดอกลาเวนเดอร์ฟุราโนะ เช่นเดียวกับเทศกาลท่าเรือที่จะจัดขึ้นในทุกๆ เมืองที่มีชายฝั่งทะเล เพื่ออธิษฐานขอให้สามารถจับปลาได้มากๆ และปลอดภัยในการเดินเรือ ฮอกไกโดภาคภูมิใจในเทศกาลกว่า 1,200 งานและกิจกรรมที่จัดขึ้นตลอดทั้งปี
ประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือและทะเลญี่ปุ่น พื้นที่ของญี่ปุ่นคิดเป็น 377,873 ตารางกิโลเมตร ซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกับประเทศเยอรมัน และ สวิตเซอร์แลนด์รวมกัน หรือ มีขนาดเล็กกว่าแคลิฟอร์เนียเล็กน้อย ประเทศญี่ปุ่นประกอบด้วยเกาะหลัก 4 เกาะ ล้อมรอบ ด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยกว่า 4,000 เกาะ
ตารางด้านล่างแสดงที่ตั้งและขนาดของเกาะหลักทั้งสี่
ฮอกไกโด (เกาะทางเหนือ) | 83,457 ตารางกิโลเมตร |
ฮอนชู (เกาะหลัก) | 231,121 ตารางกิโลเมตร |
ชิโกคุ (เกาะที่เล็กที่สุดในบรรดาเกาะหลัก) | 18,793 ตารางกิโลเมตร |
คิวชู (เกาะทางใต้) | 42,194 ตารางกิโลเมตร |
ลักษณะภูมิประเทศของญี่ปุ่น มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแนวชายฝั่งที่มีทิวทัศน์แตกต่างกัน ภูเขาสูงตระหง่านซึ่งโดยมากเกิดจากเขาภูเขาไฟที่ยังไม่สงบ พร้อมทิวทัศน์ ที่เป็นหุบเขาโค้งเคี้ยวไปมา เป็นสิ่งที่คอยเชื้อเชิญให้นักท่องเที่ยว เข้ามาสู่โลกอันลึกลับของธรรมชาติ
ภูมิอากาศ
ทริปญี่ปุ่น ฤดูใบไม้ผลิ : มีนาคม เมษายน พฤษภาคม
เมื่อดอกบ๊วยเบ่งบาน เป็นสัญญาณ ว่าฤดูหนาว กำลังจะหมดไป และ ฤดูใบไม้ผลิกำลังจะมาถึง หลังจากนั้นดอกซากุระ ก็จะเริ่มบานตามมาและจะเบ่งบานสะพรั่งสวยงามที่สุดในแถบโตเกียวระหว่าง ช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน ในช่วงฤดูกาลนี้ทิวทัศน์ของภูเขาทุ่งนาและสวนต่างๆ จะปกคลุมไปด้วยสีชมพูสวยงามดูอ่อนหวานนุ่มนวล
เสื้อที่ควรเตรียมไป
ถ้าไปต้นฤดูใบไม้ผลิ จะยังเป็นรอยต่อของช่วงฤดูหนาวอยู่อากาศยังหนาวสำหรับคนไทย ควรเตรียมแจ็กเก็ตและสเว็ตเตอร์กันหนาวไป เตรียมเสื้อด้านในที่ให้ความอบอุ่นไปและสวมเสื้อคลุม แจ็กเก็ตหรือคาร์ดิแกน หรือเสื้อคลุมบางตัวยาว ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่
ควรเตรียมกางเกงขายาว กางเกงขายาวแนบเนื้อตัวหนา ถุงน่องแบบหนา และถุงเท้ายาว พร้อมรองเท้าหุ้มส้น หรือรองเท้าบูทแบบหุ้มข้อ
ฤดูร้อน : มิถุนายน กรกฎาคม สิงหาคม
ฤดูร้อนของญี่ปุ่น จะเริ่มขึ้นในเดือนมิถุนายน กับมีฝนตกร่วม 3 – 4 สัปดาห์ นี่คือเวลาที่สำคัญสำหรับเกษตรกรสำหรับการปลูกข้าว และหลังจากเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไปอากาศจะชื้นและร้อนขึ้นอย่างมาก ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากจึงนิยมไปเที่ยวทะเลเพื่อว่ายน้ำ และพักผ่อนตามบ้านพักตากอากาศในภูเขาที่มีอากาศเย็นสบาย ฤดูร้อนยังเป็นช่วงที่มีงานเทศกาลและมีการจัดกิจกรรมที่น่าสนใจขึ้นมากมายทั่วประเทศ
เสื้อที่ควรเตรียมไป
เสื้อผ้าแบบเมืองร้อน เสื้อแขนกุดพร้อมเสื้อทับด้านนอก เสื้อยืดแขนสั้น ชุดเดรส กางเกงหรือกระโปรงสั้น กางเกงขายาว ถุงเท้าแบบสั้น รองเท้าหุ้มส้นธรรมดาหรือ รองเท้าสาน โลชั่นกันแดด ชุดว่ายน้ำ แว่นตากันแดด หมวกสำหรับกันแดด แต่ควรให้นำแจ็กเก็ตหรือเสื้อคลุมอย่างบางไปด้วย สำหรับถ้าอากาศเย็นในช่วงกลางคืน และไม่ควรลืมผ้าเช็ดหน้า ผ้าฝ้าย หรือผ้าขนหนูผืนเล็กๆ สำหรับเช็ดเหงื่อ
ฤดูใบไม้ร่วง : กันยายน ตุลาคม พฤศจิกายน
ฤดูใบไม้ร่วง จะนำความสดชื่นมา พร้อมกับสายลมที่พัดเบาๆ และ อุณหภูมิที่เย็นสบายหลังจากความร้อน และ ชื้นของฤดูร้อนหมดไป ป่าทั้งผืนจะถูกย้อมด้วยสีสันของฤดูใบไม้ร่วง ที่สวยงาม ดอกเก๊กฮวย ที่บานสะพรั่งงดงามร่ายมนต์ให้นักท่องเที่ยว ต้องเข้ามาเยี่ยมเยือนเพื่อชมตามสวนสาธารณะ และ สวนดอกไม้ต่างๆ ฤดูใบไม้ร่วงยังเป็นฤดูกาลสำหรับการจัดนิทรรศการมากมายในญี่ปุ่น รวมถึงการแสดงดนตรี และ การแข่งขันกีฬาต่างๆ
เสื้อที่ควรเตรียมไป
แม้อากาศจะไม่หนาวเท่าฤดูหนาว แต่จะมีลมเย็นๆพัดตลอดทั้งวัน ควรเตรียมเสื้อคลุมแขนยาวสำหรับกันหนาวเพื่อสามารถถอด เข้า-ออก ได้ในช่วงที่ ออกนอกสถานที่ เสื้อผ้าที่ควรนำไป อาทิเช่น เสื้อยืดแขนยาว เสื้อแขนยาว เสื้อคอเต่าแขนยาว เสื้อคาร์ดิแกน เสื้อคลุม เสื้อแจ็กเก็ต สเว็ตเตอร์กันหนาว ผ้าพันคอแบบหนา กางเกงขายาว กระโปรงยาว กางเกงเล็กกิ้งตัวหนา ถุงน่องแบบหนา ถุงเท้า พร้อมรองเท้าหุ้มส้น หรือรองเท้าบู๊ท
ฤดูหนาว : ธันวาคม มกราคม กุมภาพันธ์
อุณหภูมิในฤดูหนาว ของที่ราบตลอดชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกนั้นมักจะไม่หนาวจัดจนต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส อากาศออกจะค่อนข้างแห้งและแจ่มใส ตอนกลางและตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่นเป็นภูมิภาค ที่มีชื่อเสียงเรื่องกีฬาฤดูหนาวอย่างมาก ส่วนทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่นนั้น อากาศจะเย็นสบายและไม่หนาว จัดเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น
เสื้อที่ควรเตรียมไป
ชุดกันหนาว ไปให้พร้อม เสื้อและกางเกงแนบเนื้อด้านใน สำหรับให้ความอบอุ่นกับร่างกาย จำเป็นต้องมีเสื้อคลุมโอเวอร์โค๊ต ชุดผ้าขนสัตว์และแจ็คเก็ต ชนิดหนาเป็นพิเศษ ถ้าเป็นแบบกันน้ำได้ก็ยิ่งดี ผ้าพันคอแบบหนา ถุงมือ หมวกไหมพรมแบบกันหนาวได้ ถ้า หนาวมากอาจต้องมีที่ปิดหู ส่วนถุงเท้าให้ใส่แบบหนาๆ รองเท้าหุ้มข้อหรือรองเท้าบูทที่กันความหนาวเย็นและหิมะได้ ควรสวมใส่เสื้อผ้าให้อบอุ่นอยู่เสมอ
เวลาที่ญี่ปุ่นเร็วกว่าไทยสองชั่วโมง
สกุลเงินและการแลกเปลี่ยนเงินตรา
สกุลเงินประเทศญี่ปุ่น เขียนเป็นภาษาญี่ปุ่น คือ “円” โดยจะมีสัญลักษณ์เป็น ” “¥” ซึ่งมีการเขียนตัวสะกดเป็น “Yen” หรือ “JPY” ในตัวอักษรต่างประเทศ
ฐานภาษี ผู้บริโภคในประเทศญี่ปุ่นอยู่ที่ 8% เนื่องจาก ราคาสินค้าที่แสดงไว้จะเป็น ราคารวมภาษี หรือ ไม่แล้วแต่ร้านค้า กรุณาถามพนักงาน ว่าสินค้านั้นได้รวมภาษีไว้ด้วยหรือไม่ เพื่อที่จะได้ทราบราคาที่แน่นอนก่อนตัดสินใจ ซื้อสินค้า
ไม่มีการจำกัดจำนวนเงินที่จะนำเข้าหรือนำออกจากประเทศญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็นเงินสกุลใด อย่างไรก็ตาม หากมีการนำสกุลเงินใดๆ เช็ค ตราสาร หรือเงินในรูปแบบอื่นๆเข้าหรือออกจากประเทศญี่ปุ่นมูลค่ามากกว่า 1,000,000 เยนจะต้องทำการแจ้งต่อกรมศุลกากรให้เรียบร้อย
หน่วยสกุลเงิน ญี่ปุ่น คือ เยน เหรียญที่มีใช้อยู่คือเหรียญ 1, 5, 10, 50, 100 และ 500 เยน
และธนบัตร ที่มีใช้อยู่คือธนบัตรมูลค่า 1,000, 2,000, 5,000 และ 10,000 เยน
คุณสามารถ ซื้อเงินเยนได้ที่ธนาคาร รับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และ ร้านรับแลกเปลี่ยนเงินตราที่ได้รับอนุญาตทั่วไป สำหรับเคาน์เตอร์แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในสนามบินระหว่างประเทศนั้นมักจะเปิดในเวลาทำการปกติ และอัตราแลกเปลี่ยนจะมีความผันผวนในแต่ละวันแปรผันตามค่าของตลาดเงิน
ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.jnto.or.th/
Klook.com