Point of view
วัน-เวลาทำการ : เราจะติดต่อกลับในเวลาทำการ : จันทร์ - ศุกร์ 09.00 - 17.00
(หยุดวันเสาร์ - อาทิตย์ และ วันหยุดตามปฏิทิน)
ติดต่อข่าวสารโปรโมชั่นทัวร์
qrcode
@povtravel

เที่ยวเวียดนามเหนือ เยือนเวียดนามเหนือ แบบสุดปัง สะพายเป้ไปกับหมีพอยท์

พฤศจิกายน 1, 2019 | by Point of view

เที่ยวเวียดนามเหนือ สวัสดีครับ ลมหนาวปลายปีกลับมาอีกครั้ง สัมผัสความเย็นที่เวียดนามเหนือกับหมีพอยท์ ในช่วงหน้าหนาวจะอากาศดีสุดๆ ได้หยิบเสื้อกันหนาวตัวโปรดมาใส่เที่ยวแบบชิคๆ แน่นอน บรรยากาศดี ธรรมชาติสวย ได้ฟีลโรแมนติก  แถมยังอยู่ไม่ไกลจากเมืองไทยมากนัก นั่งเครื่องประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว ด้วยค่าครองชีพที่ไม่สูง เที่ยวๆฟินเช็คอินให้โลกได้รู้ แบบดีงามพระรามแปดแน่นอนครับ

เวียดนามเหนือ - 1
เวียดนามเหนือ – 1

1.นาขั้นบันได ซาปา

เวียดนามเหนือ - 2
เวียดนามเหนือ – 2

เที่ยวเวียดนามเหนือ ที่แรกที่หมีพอยท์จะแนะนำ คือ เมืองซาปา ตั้งอยู่ในจังหวัดหล่าวกาย บริเวณภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเวียดนาม ซึ่งห่างจากชายแดนประเทศจีนประมาณ 380 กิโลเมตรมีภูมิประเทศแบบเทือกเขา โดยเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาฮวงเหลียนเซิน ซึ่งอยู่ทางตะวันออกสุดของเทือกเขาหิมาลัย เทือกเขาแห่งนี้เป็นที่ตั้งของยอดเขาฟานซิปัน ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเวียดนามที่ระดับความสูง 3,143 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ถ้าได้ไปเยือนช่วงปลายฝนตกหนาวจะได้เห็นหมดอันสวยงายงาม ได้ภาพสวยๆกลับมาแน่นอนคับ หมีพอยทื คอนเฟิร์มครับ

2.อ่าวฮาลองเบ

เวียดนามเหนือ - 3
เวียดนามเหนือ – 3

สถานที่ต่อมา อ่าวฮาลองเบ  เป็นอ่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอ่าวตังเกี่ย ทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม ใกล้ชายแดนติดต่อกับประเทศจีน มีพื้นที่ทั้งหมด 1,500 ตารางกิโลเมตร อยู่ห่างจากกรุงฮานอยไปทางตะวันออก 170 กิโลเมตร เป็นสถานที่เที่ยวยอดนิยิมอีกที่ ถ้าไปเวียดนามเหนือต้องไปเช็คอินที่นี่นะ ประทับใจแน่นอนครับ หมีพอยท์ขอบอก !!

3.ยอดเขาฟานซิปัน

เวียดนามเหนือ - 4
เวียดนามเหนือ – 4

ฟานซีปัง เป็นภูเขาที่มีความสูงที่สุดในเวียดนามด้วยความสูง 3,143 เมตร โดยได้ฉายาว่า “หลังคาแห่งอินโดจีน” อยู่ในเมืองซาปา ในประเทศเวียดนาม การเดินทางขึ้นเขาฟานซีปันไปได้ 2 ทาง ให้เลือก ได้แก่

4.นั่งประเช้าแบบเก๋ๆ

เวียดนามเหนือ - 5
เวียดนามเหนือ – 5

ก่อนอื่นหมีพอยท์ขอบอกว่า กระเช้าที่จะพาเราขึ้นไปนั้นปลอดภัย เป็นกระเช้าแบบสามสายแบบไม่หยุดพัก ที่ยาวที่สุดในโลก โดยมีความยาวถึง 6,292 เมตร ประมาณ 6 กิโลเมตร ถ้าเดินทางไปเที่ยวช่วงปลายฝนต้นหนาว หรือหน้าหนาวเลย จะได้เจอหมอกดั่งเช่นในภาพ กระเช้าจะผ่านภูเขาหลายลูก ผ่านเมฆหมอกไปอย่างรวดเร็ว ระยะเดินทางประมาณ 15-20 นาทีก็ถึงยอดเขาแล้ว ระหว่างนั่งกระเช้าก็ชมวิวด้านล่างได้แบบ360องศา ใครกลัวความสูงมันก็จะเสียวหน่อยๆนะครับ แต่ก็สนุกตื่นเต้น ฟินแน่นนอครับ ได้รูปสวยๆกลับไปอวดเพื่อนๆแน่นอนครับ หมีพอยท์รับประกันครับผม^^

5. นั่งรถรางใหม่สุด

รถรางขึ้นยอดฟานซิปัน

นั่งรถรางใหม่ล่าสุด จากสถานีซาปา สู่สถานีกระเช้า เพื่อนขึ้นยอดเข้าฟานซิปัน กิโลเมตร ท่านจะได้สัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติระหว่างสองข้างทาง ถึงสถานีกระเช้า นำท่านนั่งกระเช้าไฟฟ้า เพื่อขึ้นสู่ฟานซิปันยอดเขาสูงสุดแห่งเวียดนามและในภูมิภาคอินโดจีนจนได้รับการกล่าวขานว่า “หลังคาแห่งอินโดจีน” สูงที่สุดในอินโดจีนบนความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 3,143 เมตร การเดินเท้าสู่ยอดเขาแห่งนี้ไม่ได้สะดวกสบายเลย เพราะสภาพเส้นทางที่ค่อนข้างชัน จนมีเฉพาะผู้พิสมัยการเดินป่าจากทั่วโลกเลือกเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการทดสอบกำลังใจและชื่นชมความงามของผืนป่าดินร้อนแห่งเอเชีย

เส้นทางสำหรับคนที่ลุยๆ ก็ปีนเขาขึ้นไปได้ Advanture สุดๆ

การปีนเขา จะได้อารมณ์แอดเวนเจอร์ไปอีก และภูมิใจด้วยว่าได้ไปพิชิตสูงสุดแห่งอินโดจีนด้วยตัวเอง แต่ก็อย่าลืมเตรียมร่างกายกันให้พร้อม เพราะถือว่าค่อนข้างโหดพอสมควร รวมไปถึงอุปกรณ์ที่จำเป็นในการเดินขึ้นเขา กายพร้อมใจพร้อม เดินไปเองมันก็จะได้ฟีลป่าไม้ ต้นไม้ ลำธาร เดินชมธรรมชาติ ยิ่งสูงอากาศยิ่งเย็นขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งถ้าไปตอนหน้าหนาวนะ เตรียมเสื้อกันหนาวเอาไว้ให้ดีๆ นะครับ แล้วจะคุ้มกับการเดินทางที่แสนพิเศษครั้งนี้ หมีพอยท์คอนเฟิร์มครับ

Klook.com

ข้อมูลทั่วไป

ที่ตั้ง : ตั้งอยู่ด้านตะวันออกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ทิศเหนือติดกับจีน

ทิศตะวันตกติดกับลาว

ทิศตะวันตกเฉียงใต้ติดกับกัมพูชา

ทิศตะวันออกติดกับทะเลจีนใต้และอ่าว Tonkin

ทิศใต้ติดกับอ่าวไทย

พื้นที่ 331,690 ตารางกิโลเมตร (ประมาณพื้นที่ 3 ใน 5 ของไทย)

เมืองหลวง : กรุงฮานอย (Hanoi)

ประชากร 86 ล้านคน (2550)

ภูมิอากาศ

อากาศร้อนชื้น อุณหภูมิต่ำสุดกับสูงสุดอยู่ระหว่าง 5 องศาเซลเซียสถึง 37 องศาเซลเซียส และมีฝนตกระหว่างช่วงพฤษภาคม – กันยายน

ภาษา:ภาษาเวียดนาม

ศาสนา: ศาสนาพุทธ (มหายาน) มีจำนวนผู้นับถือมากที่สุด

หน่วยเงินตรา: เงินด่ง (1 บาท : ประมาณ 500 ด่อง ณ กุมภาพันธ์ 2551)

เพราะประเทศเวียดนาม เพื่อนบ้านเราเขามีทั้งทะเลทรายและหิมะ! จึงต้องมีคู่มือช่วยจัดทริปเที่ยวเวียดนามให้เข้ากับฤดูกาลและเมืองที่น่าไปเที่ยว เที่ยวเวียดนามที่ไหนดี เที่ยวเวียดนามเดือนไหนดี เรามีคำตอบให้ ง่ายครบจบในที่เดียว

Klook.com

รู้จักกับภูมิประเทศของเวียดนาม

เวียดนามเหนือ

เวียดนามเหนือ นั้นมีพื้นที่ทิศเหนือติดกับประเทศจีน ทิศตะวันตกติดกับลาว และทิศตะวันออกติดกับอ่าวตังเกี๋ย โดยแบ่งภูมิประเทศออกเป็น 3 ภาคด้วยกันคือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันตกเฉียงเหนือ และดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแดง เมืองสำคัญในเวียดนามเหนือคือฮานอยและไฮฟอง โดยเขตนี้จะมีสภาพอากาศค่อนข้างเย็น และ มีการแบ่งฤดูกาลออกเป็น 4 ฤดูกาลคือ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว

เวียดนามกลาง

เวียดนามกลาง เป็นพื้นที่ส่วนที่แคบที่สุดของประเทศ มีพื้นที่ฝั่งซ้ายติดประเทศลาวและฝั่งขวาติดทะเลจีนใต้ โดยแบ่งภูมิประเทศออกเป็น 1 ภาคคือ ภาคชายฝั่งตอนกลางเหนือ เมืองสำคัญในเวียดนามกลางคือทัญฮว้า โดยเขตนี้จะมีสภาพอากาศแบบร้อนชื้น และมีเพียง 2 ฤดูกาลคือ ฤดูฝน และฤดูแล้ง

เวียดนามใต้

เวียดนามใต้ เป็นพื้นที่แคบส่วนล่างที่ฝั่งตะวันตกติดกับประเทศกัมพูชา ฝั่งตะวันออกติดกับทะเลจีนใต้ และมีฝั่งใต้บางส่วนที่ติดกับอ่าวไทย โดยแบ่งภูมิประเทศออกเป็น 4 ภาคด้วยกันคือ ภาคชายฝั่งตอนกลางใต้ ภาคที่สูงตอนกลาง ภาคตะวันออกเฉียงใต้ และดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง เมืองสำคัญของเวียดนามใต้คือโฮจิมินห์ซิตี้ และ ดานัง โดยเขตนี้จะมีสภาพอากาศแบบร้อนชื้น และมีเพียง 2 ฤดูกาลคือ ฤดูฝน และ ฤดูแล้งเช่นเดียวกับเวียดนามกลาง

ฤดูใบไม้ผลิเวียดนาม (มีนาคม – พฤษภาคม)

เป็นช่วงที่อากาศเย็นสบายแต่มักจะมีฝนตกเล็กน้อยทำให้อากาศค่อนข้างชื้น ในช่วงนี้ต้นไม้ใบหญ้าจะเริ่มกลับมาเขียวสดใสอีกครั้งหลังจากห่างหายจากฝนไปในช่วงฤดูหนาว เป็นอีกช่วงหนึ่งที่เหมาะกับการเที่ยวเวียดนามเหนือเป็นอย่างมากเนื่องจากสภาพอากาศที่เย็นสบายกว่าเมืองไทย

ฤดูร้อนเวียดนาม (มิถุนายน – สิงหาคม)

ฤดูร้อนของเวียดนามเหนือคือช่วงที่มีฝนตกบ่อยที่สุด และเป็นช่วงที่มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าวที่สุดด้วยเช่นกัน โดยอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 26-33 องศา แต่ก็เคยมีอากาศร้อนสูงสุดถึง 40 องศาไม่แพ้กับภาคอื่นๆเลยทีเดียว แต่ทั้งนี้แม้จะมีฝนบ่อย แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคกับการเดินทางเท่าไหร่นักหากวางแผนเช็คสภาพอากาศล่วงหน้า

ฤดูใบไม้ร่วงเวียดนาม (กันยายน – พฤศจิกายน)

นับได้ว่าฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงที่มีอากาศเย็นสบายและน่าเที่ยวมากที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะมีอุณหภูมิเฉลี่ยเพียง 23-28 องศา และมีฝนตกน้อยกว่าฤดูใบไม้ผลิ ท้องฟ้าแจ่มใส จึงเหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้งและการเดินชมเมืองเป็นอย่างมาก แต่อย่าลืมผ้าพันคอและเสื้อแจ็คเก็ตกันลมไว้สักหน่อยเป็นดี

ฤดูหนาวเวียดนาม (ธันวาคม – กุมภาพันธ์)

เป็นฤดูที่มีอากาศเย็นที่สุดในรอบปีสำหรับเวียดนามเหนือ โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยเพียง 7-20 องศาตามแต่สภาพพื้นที่ ทั้งนี้พื้นที่สูงทางเหนือสุดของเวียดนามอาจมีหิมะตกให้เห็นด้วย โดยเดือนที่หนาวเย็นที่สุดคือช่วงเดือนมกราคม ซึ่งบนที่สูงบางแห่งอาจเย็นถึง 0 องศา ใครจะท่องเที่ยวเวียดนามเหนือในช่วงนี้อย่าลืมเตรียมเสื้อผ้าหนาๆ ไว้ด้วย

ฤดูฝนเวียดนาม (พฤษภาคม – ตุลาคม)

ฤดูที่เฉอะแฉะที่สุดของเวียดนามกลางและใต้ แต่ก็เป็นช่วงที่ดีที่สุดในการชมธรรมชาติและความเขียวชอุ่มของไร่นาแบบขั้นบันได และเป็นเวลาที่เหมาะต่อการเที่ยวทะเลช่วงต้นฤดู โดยฤดูนี้อาจมีอุณหภูมิสูงสุดถึง 40 องศาในช่วงฤดูร้อนที่แดดจัดที่สุด ส่วนอุณหภูมิทั่วไปจะอยู่ที่ 26-34 องศา และฤดูนี้ยังเป็นช่วงที่มีพายุฝนฟ้าบ่อยที่สุดของปี ซึ่งเอาแน่เอานอนไม่ได้นัก แต่คุณสามารถรับมือได้ง่ายๆ ด้วยการเช็คสภาพอากาศล่วงหน้าก่อนการเดินทาง

อาหารเวียดนาม เป็นอาหารประจำชาติ ของชาวเวียดนาม ซึ่งเป็นอาหารที่มีลักษณะโดดเด่นเป็นของตัวเอง ชาวเวียดนามกินข้าว เป็นอาหารหลักเช่นเดียวกับชาติอื่นๆใน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ ใช้เครื่องปรุงรสที่เป็นของหมักดองเช่นเดียวกัน เนื่องจากปูมหลังทางประวัติศาสตร์ที่เคยถูกจีนและฝรั่งเศสปกครอง จึงมีอิทธิพลของทั้งสองชาติ ปรากฏอยู่บ้าง นอกจากนั้นเนื่องจากสภาพภูมิศาสตร์ที่ทอดยาวตามแนวชายฝั่ง ทำให้อาหารเวียดนามแต่ละภูมิภาคมีความแตกต่างกัน อาหารเวียดนาม ที่คนไทยรู้จักดีและเป็นเอกลักษณ์คือแหนมเนืองและขนมเบื้องญวน